ศูนย์ข่าวขอนแก่น - จังหวัดขอนแก่นเตรียมโรงพยาบาลสนามกว่า 1,000 เตียง รองรับหากการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 เร่งตัวขึ้น ขณะที่ผู้ติดเชื้อวันนี้เพิ่มอีก 8 ราย รวมติดเชื้อสะสมที่ 68 ราย รักษาหายแล้ว 14 ราย ที่เหลือยังคงรักษาตัวในโรงพยาบาล
นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ในจังหวัดขอนแก่นว่า สถานการณ์ล่าสุดยังคงพบผู้ที่ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เพิ่ม โดยวานนี้ (11 เม.ย.) พบผู้ติดเชื้ออีก 16 ราย และวันนี้อีก 8 ราย ทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จังหวัดขอนแก่นขณะนี้สะสมอยู่ที่ 68 ราย รักษาหายแล้ว 14 ราย ที่เหลือยังคงรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 7 แห่ง ประกอบด้วย รพ.ขอนแก่น, รพ.ศรีนครินทร์, รพ.สิรินธร, รพ.ชุมแพ, รพ.บ้านฝาง, รพ.บ้านไผ่ และ รพ.เขาสวนกวาง จำนวน 54 ราย
สถานการณ์ยังถือว่าอยู่ในการคาดการณ์ของคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดขอนแก่น ผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่ยังยืนยันอยู่ในกลุ่มคลัสเตอร์สถานบันเทิง นอกจากเป็นคนขอนแก่นแล้วยังมีคนจากจังหวัดข้างเคียง และ กทม.เข้ามารักษาตัวในโรงพยาบาลขอนแก่น เพราะมั่นใจในระบบการรักษาด้านสาธารณสุข ขอให้ทุกคนได้ปฏิบัติตามมาตรการ DMHTT อย่างเข้มงวด
จังหวัดขอนแก่นมีเตียงรองรับผู้ป่วยโควิด-19 อีก 350 เตียง มั่นใจว่าเพียงพอ แต่หากสถานการณ์ไม่ดีขึ้นมีผู้ติดเชื้อเพิ่มต่อเนื่อง ทางจังหวัดขอนแก่นได้เตรียมพื้นที่สำหรับตั้งโรงพยาบาลสนามทันทีซึ่งจะสามารถรองรับผู้ป่วยติดเชื้อได้อีกถึง 1,000 เตียง
ขณะเดียวกัน คณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดขอนแก่นได้ประชุมติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง และได้ประกาศคำสั่งออกมาอีก 2 ฉบับ ประกอบด้วยคำสั่งให้ผู้ที่เดินทางมาจาก 9 จังหวัด ประกอบด้วย กรุงเทพมหานคร ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรสาคร สมุทรปราการ สมุทรสงคราม ราชบุรี ตาก และนครปฐม เมื่อเข้าพื้นที่ต้องเฝ้าระวังตัวเอง 14 วัน ลงทะเบียนผ่านคิวอาร์โค้ดของสาธารณสุขจังหวัดขอนแก่น หรือรายงานตัวต่อ อสม.ในพื้นที่ และปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรค DMHTT อย่างเคร่งครัด
ทั้งได้ประกาศคำสั่งปิดสถานบริการหรือสถานที่เสี่ยงแพร่ระบาดโรคเป็นเวลา 14 วัน ได้แก่สถานบริการ สถานประกอบการที่มีลักษณะคล้ายสถานบริการ สถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ กิจการอาบน้ำ สถานประกอบกิจการอาบอบนวด หรือสถานที่อื่นที่มีลักษณะคล้ายกันเป็นเวลา 14 วัน ตั้งแต่วันนี้ 12 เม.ย. 2564 ถึงวันที่ 25 เม.ย. 2564 เพื่อให้การควบคุมโรคได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
