อุดรธานี - พ่อเมืองเวิร์กฟอร์มโฮมและตรวจคัดกรองหาเชื้อแล้ว หลังผู้ติดเชื้อโควิด-19 ก่อนหน้าเข้าไปในศาลากลาง ล่าสุดอุดรฯ ตรวจพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มอีก 12 ราย รวมผู้ติดเชื้อสะสม 33 ราย รักษาหายแล้ว 1 ราย ด้านชาวบ้านข้องใจเข้าไปถามถึงที่ประชุมว่าทำในไทม์ไลน์ผู้ติดเชื้อมักใช้คำว่า “สถานที่แห่งหนึ่ง” ทำไมไม่ระบุให้ชัดไปเลย คนจะได้ระวัง
วันนี้ (11 เม.ย. 64) เวลา 14.00 น. ผู้สื่อข่าว จ.อุดรธานีรายงานว่า ที่ห้องประชุมพระยาศรี (ชั้น 3) ศาลากลางจังหวัดอุดรธานี นายปราโมทย์ ธัญพืช รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี, นพ.ศุภชัย ครบตระกูลชัย ผอ.รพ.นายูง ตัวแทน สนง.สาธารณสุข จ.อุดรธานี และนางศศินี อภิชนกิจ รอง ผอ.รพ.อุดรธานี ร่วมแถลงข่าวสถานการณ์ผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ใน จ.อุดรธานี
โดยตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ของอุดรธานี วันนี้เพิ่มขึ้นอีก 12 ราย อยู่ระหว่างสอบสวน 6 ราย ผู้ที่เสี่ยงสูง 65 ราย เบื้องต้นสอบสวนไปแล้ว 19 ราย เป็นผลบวก 2 ราย ผลลบ 17 ราย มี 46 รายรอผลอยู่ ทำให้ยอดยืนยันสะสมเป็น 33 ราย หายแล้ว 1 ราย
ทั้งนี้ ในจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มใหม่ 12 ราย อยู่ระหว่างการสอบสวน 6 ราย เพราะข้อมูลผู้ติดเชื้อของ จ.อุดรธานีจะมากกว่า ศบค.ที่รายงาน 6 รายในวันนี้ เพราะ 6 รายที่สอบสวนอยู่เป็นการรายงานช่วงกลางคืนที่ทาง ศบค.ตัดยอดไปแล้วหลัง 5 โมงเย็น สรุปผู้ติดเชื้อโควิด จ.อุดรธานี ณ วันนี้มีทั้งหมด 33 รายหายไปแล้ว 1 ราย คือเป็นรายที่อยู่ ต.โนนสูง
นายปราโมทย์ ธัญพืช รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี กล่าวว่า ขอเรียนว่าท่านผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานีไม่ได้ไปไหน ท่านระวังตัวเองเนื่องจากว่าช่วงหนึ่งมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 มาที่ศาลากลาง จึงจำเป็นต้องทำงานที่บ้าน ตอนนี้สุขภาพยังแข็งแรง แล้วก็ไปตรวจตามมาตรการที่ทางสาธารณสุขกำหนดไว้แล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า การแถลงข่าวครั้งนี้มีประชาชนชาว จ.อุดรธานี แฝงตัวเป็นผู้สื่อข่าวเข้าร่วมฟังพร้อมซักถามข้อสงสัยการแถลงข่าวด้วย โดยได้ซักถามถึงการใช้คำว่าทำไมต้องใช้คำว่า “สถานที่แห่งหนึ่ง” ลงในไทม์ไลน์ ทำไมไม่ระบุชื่อสถานที่นั้นๆ ให้ชัดเจน และบอกประชาชนว่าใครไปสถานที่นั้นให้ไปตรวจ ซึ่งทาง สสจ.อุดรฯ ได้ให้ความเห็นว่า ในประเด็นการที่ผู้สัมผัสหรือผู้มีเชื้อไปใช้บริการในสถานที่ต่างๆ เบื้องต้นในสถานที่ต่างๆ ก็ได้มีมาตรการดูแลตามมาตรการในเรื่องของการทำความสะอาด มาตรการในการดูแลสถานที่ที่เป็นมาตรฐานซึ่งได้มีการซักซ้อมไปแล้ว ฉะนั้น การที่ผู้ที่ไปใช้ต่อไม่ว่าจะเป็น Fitness ร้านอาหาร หรือธนาคาร ตู้เอทีเอ็ม โอกาสแพร่เชื้อจากสถานที่ต่างๆ เหล่านี้ค่อนข้างต่ำมาก เห็นว่าทุกเคสที่ผ่านมาทั้งในประเทศไทยและก็ทั่วโลกยังไม่มีรายงานที่เป็นหลักฐานที่ชัดเจนว่ามีผู้ติดเชื้อจากการใช้บริการ
“ขอให้มีความมั่นใจ ทางเราเมื่อทราบว่ามีผู้ติดเชื้อไปใช้บริการ แต่เป็นระยะเวลาผ่านมาสักระยะหนึ่งเราก็ได้มีการประชาสัมพันธ์แล้วก็มีการเข้าไปทำความสะอาดฆ่าเชื้อ สิ่งที่ได้จากนี้ก็คือสร้างความมั่นใจให้แก่ประชาชน” นายปราโมทย์กล่าว