พระนครศรีอยุธยา - ผู้เสียหายหลายรายแห่ดูตัวโจรแสบตระเวนงัดร้านอาหาร หลังตำรวจรวบตัวแล้ว ผงะเดือนเดียวก่อเหตุ 4 ครั้ง อ้างไม่มีเงินใช้ หลังออกจากเรือนจำแล้วไม่มีงานทำ
จากกรณีที่มีร้านโชกุนอินเตอร์ฟู๊ดถูกโจรงัด 2 รอบ เมื่อวันที่ 3 เมษายน 2564 และมีกล้องวงจรปิดช่วงเวลา 05.00 น.บันทึกพฤติกรรมของคนร้ายไว้ได้ เป็นชาย อายุประมาณ 30-40 ปี สวมใส่เสื้อแขนยา วกางเกงขายาว มีแมสก์ปิดบังใบหน้าและพกไฟฉายหนึ่งอัน ก่อเหตุเข้ามาในร้าน จากนั้นเดินวนเวียนในห้องครัวพยามรื้อค้นทรัพย์สินแต่ไม่ได้
จากนั้นกล้องอีกมุมบริเวณเคาน์เตอร์คิดเงิน จับภาพคนร้ายพยายามรื้อกล่องฮาร์ดดิสก์ที่ติดอยู่ข้างฝาผนังออก เพื่อค้นหาของมีค่าตามจุดต่างๆ แต่คนร้ายเหลือบไปเห็นกล้องวงจรปิดจึงใช้มือหักกล้องวงจรออกไปอีกมุมหนึ่งเพื่อไม่ให้จับใบหน้าตนเอง และเดินไปแกะซองผ้าป่าที่ลูกค้าร่วมทำบุญไว้ ได้เงินไปจำนวนหนึ่ง พร้อมสิ่งของที่วางไว้บนโต๊ะ อุปกรณ์เครื่องมือช่างก็เอาไปด้วย โดยคนร้ายใช้เวลากว่า 30 นาที จึงหลบหนีออกจากร้านไป
ล่าสุด ตำรวจทำงานเร็ว สามารถจับผู้ก่อเหตุได้พร้อมนำตัวมาแถลงข่าว เมื่อเวลา 09.00 น.วันนี้ (7 เม.ย.) ที่ห้องสืบสวน สภ.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.อ.ประเวศ ศรีนาค ผกก.สภ.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.ท.ณัฏฐ์เดชา ฐานิสภัทราพงศ์ รอง ผกก.สส.สภ.พระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมตัวนายเกรียงไกร หรือไกร ประสงค์ดี อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 18/6 หมู่ 3 ตำบลภาชี อำเภอภาชี จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ผู้ต้องหาลักทรัพย์ในเคหสถาน โดยทำลายสิ่งกีดกั้นคุ้มครองทรัพย์ หลังจากก่อเหตุตระเวนลักทรัพย์ภายในอำเภอพระนครศรีอยุธยาโดยพบว่ามีผู้เสียหายจำนวนหลายรายมาทำการชี้ตัวผู้ต้องหาได้อย่างชัดเจน
พ.ต.อ.ประเวศ ศรีนาค ผกก. กล่าวว่า ช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ได้มีคนร้ายเข้าไปก่อเหตุลักขโมยสิ่งของตามบ้านเรือนประชาชน โดยเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2564 และวันที่ 3 เมษายน 2564 ได้มี น.ส.สิลดา เนียมศรีสมหมาย อายุ 43 ปีเจ้าของร้านโชกุน เป็นผู้เสียหาย โดยอ้างว่าเข้ามางัดแงะลักของภายในร้าน ได้เงินสดไป 700 บาท และยังลักตู้บริจาคจำนวนเงินประมาณ 700 บาท และรื้อข้าวของภายในร้าน ก่อนหลบหนีไปโดยกล้องวงจรปิดภายในร้านสามารถจับภาพการเข้ามาก่อเหตุ 2 ครั้งได้อย่างชัดเจน
ต่อมา เมื่อวันที่ 4 เมษายน 2564 เวลา 18.15 น. ผู้ต้องหายังได้เข้าไปลักทรัพย์ที่บ้านพักเจ้าหน้าที่รถไฟ โดยได้งัดแงะประตูด้านหลังของบ้านพักแล้วเข้าไปรื้อค้นทรัพย์สินได้เงินสดไปประมาณ 10,000 บาท และพระเครื่องต่างๆ ไม่ทราบจำนวน และยังได้เอารถจักรยานยนต์ของผู้เสียหายขับหลบหนี
และรายล่าสุด เมื่อวันที่ 6 เม.ย. น.ส.พรนิภา จารุเจริญภาพ อายุ 43 ปี เจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวหมูต้มยำนายเอก ตั้งอยู่ภายในปั๊มปตท. บนถนนสายเอเชียได้ถูกคนร้ายย่องเข้างัดร้านช่วงเวลา 04.00 น.เข้ามาลักเอาถังเก็บเงินของร้าน มีเงินอยู่ประมาณ 5,000 บาท และได้หลบหนีไป ทุกเหตุการณ์ที่คนร้ายขโมยได้มีกล้องวงจรปิดสามารถจับภาพได้
จากการสอบสวน นายเกรียงไกร ผู้ต้องหารับสารภาพว่า ได้ก่อเหตุจริงเนื่องจากตนเองเพิ่งออกจากเรือนจำได้ประมาณ 3 เดือน แต่ออกมาแล้วไม่มีงานทำจึงได้ก่อเหตุตระเวนลักทรัพย์ตามร้านค้าและบ้านเรือนเพื่อนำเงินมาใช้จ่ายและผ่อนรถจักรยานยนต์ พร้อมยกมือขอโทษผู้เสียหาย
