เชียงใหม่ - เชียงใหม่ยังคงระดมกำลังทุกฝ่ายเร่งดับไฟป่าบนภูเขาสูงในพื้นที่หลายอำเภออย่างต่อเนื่อง ทั้งส่งอากาศยานบินโปรยน้ำพร้อมปฏิบัติการภาคพื้นดิน โดยจุดเดิมในอำเภอสะเมิงที่ไหม้หนักช่วง 3 วันที่ผ่านมาดับแล้ว แต่เจอจุดใหม่ห่างไป 5 กิโลเมตร
วันนี้ (31 มี.ค. 64) ศูนย์บัญชาการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 จังหวัดเชียงใหม่ ได้ส่ง UAV หรืออากาศยานไร้คนขับของกองทัพอากาศขึ้นบินตรวจหาจุดความร้อนแบบเรียลไทม์ในพื้นที่เสี่ยง 9 อำเภอของจังหวัดเชียงใหม่ คือ อำเภอเชียงดาว แม่แตง พร้าว สะเมิง แม่ออน สันทราย สันกำแพง แม่ริม และหางดง โดยตรวจพบจุดความร้อนจาก UAV รวมทั้งสิ้น 34 จุด ซึ่งในพื้นที่อำเภอสะเมิงที่เกิดไฟไหม้ลุกลามอย่างหนักติดต่อกันมา 3 วัน ตรวจพบจุดความร้อนรวม 8 จุด ทั้งหมดอยู่ในพื้นที่ตำบลสะเมิงใต้ หนึ่งในนั้นคือในบริเวณบ้านกองขากน้อย ห่างจากจุดเดิมที่เกิดไฟป่าเมื่อวานนี้และดับไฟไปแล้วไปทางเหนือประมาณ 5 กิโลเมตร
ส่วนอีกฝั่งของภูเขาเป็นพื้นที่บ้านน้ำริน ซึ่งมีสภาพพื้นที่เป็นภูเขาสูงชันยากต่อการเข้าถึง จึงได้จัดส่งเฮลิคอปเตอร์ของกรมฝนหลวงและการบินเกษตรขึ้นบินโปรยน้ำเพื่อบรรเทาความรุนแรงของเชื้อไฟ และช่วยดับไฟก่อนจะส่งหน่วยดับไฟภาคพื้นดินเดินเท้าเข้าไปดับไฟที่ยังหลงเหลือ และช่วยดับเชื้อไฟให้สนิทอีกครั้ง โดยขึ้นปฏิบัติการไปตลอดทั้งวันจำนวน 22 เที่ยว รวมปริมาณน้ำ 11,000 ลิตร ล่าสุดสามารถควบคุมไฟไว้ได้แล้ว และได้จัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังในพื้นที่ตลอด 24 ชั่วโมงเพื่อไม่ให้เกิดไฟปะทุขึ้นมาอีก
ขณะเดียวกัน ในช่วงบ่ายกองบัญชาการควบคุมสถานการณ์ไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองภาคเหนือ กองทัพภาคที่ 3 ส่วนหน้าได้ส่งเฮลิคอปเตอร์ KA -32 ของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยบินโปรยน้ำดับไฟในพื้นที่ตำบลบ้านเป้า อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่ง UAV ตรวจพบจุดความร้อนจำนวน 11 จุดกระจายอยู่ในรัศมี 10 กิโลเมตร ซึ่งพบว่ากลุ่มไฟมีแนวยาวตั้งแต่ 80-500 เมตร และจุดที่ยาวที่สุด เป็นแนวไฟยาวประมาณ 2 กิโลเมตร จึงต้องส่งเฮลิคอปเตอร์ KA-32 ขึ้นโปรยน้ำเพื่อบรรเทาความรุนแรงของเชื้อไฟ โดยขึ้นปฏิบัติการไปจำนวน 16 เที่ยว รวมปริมาณน้ำ 48,000 ลิตร ซึ่งในจุดเล็กๆ สามารถควบคุมไว้ได้ทั้งหมดแล้ว ส่วนที่เหลือจะให้หน่วยดับไฟภาคพื้นดินเสริมกำลังเข้าช่วยดับไฟให้สนิทต่อไป