จันทบุรี - เจ้าของล้งส่งออกทุเรียนใน อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี เชิญเจ้าหน้าที่เข้าตรวจหาเปอร์เซ็นต์แป้งในทุเรียนพันธุ์กระดุม ที่กำลังจะส่งขายประเทศจีน หวังสร้างความมั่นใจคุณภาพทุเรียนไทยให้คู่ค้าต่างประเทศ
วันนี้ (29 มี.ค.) เจ้าหน้าที่เกษตรอำเภอท่าใหม่ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ สวพ.6 จันทบุรี และกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ได้เข้าตรวจสอบเปอร์เซ็นต์แป้งในทุเรียนพันธุ์กระดุม ภายในล้งรับซื้อทุเรียนส่งออกบริเวณตลาดเนินสูง อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ลูกค้าก่อนส่งออกไปยังประเทศจีน ตามคำขอของเจ้าของล้งทุเรียนที่ต้องการสร้างความมั่นใจ และสร้างมาตรฐานทุเรียนที่รับซื้อจากสวนผ่านพ่อค้าคนกลาง
หลังที่ผ่านมา จ.จันทบุรี ประสบปัญหาสภาพอากาศแปรปรวนจนทำให้ทุเรียนเกิดการรัดใบอ่อน ส่งผลต่อคุณภาพทุเรียนพันธุ์กระดุมให้ไม่ดีเท่าที่ควร นอกจากนั้น ปัญหาที่พบคือทุเรียนยังมีเปลือกหนาและเนื้อติดคาบ จนคาดว่าจะส่งผลกระทบต่อราคาปลายทาง ซึ่งใน อ.ท่าใหม่ มีการส่งออกทุเรียนพันธุ์กระดุม ไปยังประเทศจีนประมาณ 30-50 ตู้คอนเทนเนอร์ต่อวัน
ขณะที่ปัญหาที่ผู้ส่งออกทุเรียนประสบอยู่ในขณะนี้คือ การซื้อขายแบบเหมาซื้อเบอร์รวม หรือที่เรียกกันในกลุ่มชาวสวนว่า abc จึงทำให้ชาวสวนต้องตัดทุเรียนออกขายแบบควบทุกเบอร์ ไม่ใช่การตัดขายแบบทีละเบอร์เหมือนในอดีต ผลที่ตามมาคือคุณภาพทุเรียนไทยอยู่ในเกณฑ์ต่ำกว่าทุเรียนส่งออกในอดีต
อย่างไรก็ตาม มีการคาดการณ์ว่าราคาทุเรียนในปีนี้จะทะลุถึงกิโลกรัมละ 200 บาท
และจากการสุ่มตรวจทุเรียนพันธุ์กระดุมภายในล้งดังกล่าวในครั้งนี้ พบว่า มีทุเรียนอ่อนปนอยู่เพียง 20 ลูกเท่านั้น โดยมีเปอร์เซ็นต์น้ำหนักแห้งเพียง 21-24 เปอร์เซ็นต์ถือต่ำกว่ามาตรฐานที่กำหนดไว้ เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการเฉพาะกิจจึงได้ทำการพ่นสีเพื่อทำตำหนิและแยกออกจากทุเรียนที่ได้คุณภาพเพื่อทำการส่งออกต่อไป