ศูนย์ข่าวขอนแก่น - “สีกาบี” หมดหวังต่อการตรวจสอบเจ้าอาวาสวัดดังเมืองน้ำดำ “พระเมือง” ปาราชิกเสพเมถุนจากคณะสงฆ์จังหวัดกาฬสินธุ์ (ธ) ร้องตั้งแต่ปี 57 จนป่านนี้ไม่เคยเรียกไปสอบปากคำแม้แต่ครั้งเดียว ย้ำไม่ต้องการผลประโยชน์ใดๆ จากการออกมาเปิดโปง แค่ต้องการป้องพระพุทธศาสนา กำจัดเหลือบผ้าเหลืองให้พ้นวัด
จากกรณี น.ส.โสมณุดา สัมมานุช หรือสีกาบี ได้ร้องเรียนถึงนายสนธิ ลิ้มทองกุล เจ้าของรายการสนธิทอล์ก หรือคุยทุกเรื่องกับสนธิ และสื่อเครือผู้จัดการ ให้ช่วยเปิดโปงเรื่องอื้อฉาวในวงการคณะสงฆ์เมืองน้ำดำ สายธรรมยุตว่าพระชั้นผู้ใหญ่ พระโพธิญาณมุนี หรือหลวงพ่อเมือง พลวัฑโฒ เจ้าอาวาสวัดป่ามัชฌิมวาส บ.ดงเมือง ต.ลำพาน อ.เมืองฯ จ.กาฬสินธุ์ ได้มีเพศสัมพันธ์ชู้สาวกับตัวสีกาบีเอง โดยเหตุเกิดตั้งแต่ปี 2557 โดยสีกาบีต้องการให้หลวงพ่อเมืองขาดจากการเป็นพระภิกษุเพราะปาราชิกแล้ว ไม่อยากให้พุทธศาสนาเสื่อมเสีย โดยสีกาบีได้ร้องเรียนพฤติกรรมหลวงพ่อเมืองถึงเจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์ (ธรรมยุต) เพื่อพิจารณาด้านพระธรรมวินัย และอีกหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แต่จนถึงวันนี้ล่วงเข้าสู่ปี 2564 กลับไม่มีความคืบหน้า
อย่างไรก็ตาม กรณีนี้เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา (26 มี.ค.) ได้มีการยืนยันจากคณะสงฆ์จังหวัดกาฬสินธุ์ว่า พระเทพสารเมธี เจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์ (ธ) ได้มีคำสั่งที่ 1/2562 แต่งตั้งคณะกรรมาการตรวจสอบพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของหลวงพ่อเมืองแล้ว โดยมอบหมายให้พระญาณรักขิต รองเจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์ (ธ) ปฏิบัติหน้าที่แทน รับผิดชอบดำเนินการตามพระธรรมวินัย พระราชบัญญัติคณะสงฆ์ และกฎมหาเถรสมาคม ขณะนี้การตรวจสอบข้อเท็จจริงยังไม่แล้วเสร็จเพราะติดปัญหาการแพร่ระบาดเชื้อโควิด การทำงานจึงล่าช้า
ล่าสุด น.ส.โสมณุดา สัมมานุช หรือสีกาบี ได้กล่าวย้ำอีกครั้งว่า ที่ต้องออกมาร้องเรียนถึงคุณสนธิ ลิ้มทองกุล เจ้าของรายการสนธิทอล์ก เพราะหมดหวังกับระบบราชการ ระบบการปกครองของคณะสงฆ์ ร้องเรียนไปตั้งแต่ปี 2557 จนถึงวันนี้ไม่มีความคืบหน้าแม้แต่นิด คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงฯ ที่เจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์ (ธ) ตั้งขึ้นไม่เคยเรียกตนไปสอบถามข้อมูล เรียกไปสอบปากคำ ทั้งที่เราอยากไปมาก เรามีหลักฐานทุกอย่างที่จะมอบให้ประกอบการพิจารณา
เมื่อต้นปี 2553 ได้ทำหนังสือขอทราบความคืบหน้าผลการตรวจสอบฯ ไปยังคณะกรรมการฯ ที่มีพระญาณรักขิต รองเจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์ (ธ) เป็นประธาน ก็ได้รับคำตอบว่าคณะกรรมการสงฆ์ที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นกรรมการตรวจสอบล้วนเป็นพระเถระฝ่ายปกครอง แต่ละรูปต่างก็มีศาสนกิจค่อนข้างมาก จึงทำให้การทำงานล่าช้า ที่สำคัญเป็นการร้องเรียนพระเถระผู้ใหญ่จึงต้องรอบคอบเป็นพิเศษ
น.ส.โสมณุดาบอกอีกว่า ที่ตัวเธอออกมาร้องเรียนถึงพฤติกรรมอาบัติของหลวงพ่อเมืองไม่มีใครอยู่เบื้องหลังและไม่ต้องการเรียกร้องใดๆ แค่ต้องการปกป้องพระพุทธศาสนาไม่ให้เหลือบไรมารศาสนาพวกนี้อาศัยผ้าเหลือง อาศัยศรัทธาของญาติโยมหากินหาผลประโยชน์เข้าตัว หากรู้ตัวว่าไม่สามารถถือศีลครองธรรมได้ ก็ควรจะลาสิกขาออกมาใช้ชีวิตทางโลก
ทุกวันนี้นายเมืองหรือที่คนเคารพศรัทธาเรียกหลวงพ่อเมืองยังรับเงินบริจาคเงินบุญจากญาติโยม อ้างว่าระดมทุนสร้างมหาเจดีย์ขนาดใหญ่ภายในวัด เอาไว้อวดบารมีของตัวเอง
“ผู้หญิงที่นายเมืองมีความสัมพันธ์ด้วย ไม่ได้มีแค่ฉันเท่านั้น มีอีกหลายคน หากใครสังเกตติดตามนายเมืองไปกิจนิมนต์ต่างๆ หรือรู้ จะเห็นว่ามีใครบ้าง” สีกาบีกล่าว และว่า
น.ส.บีกล่าวย้ำอีกว่า หากกระบวนการตรวจสอบทางการปกครองของคณะสงฆ์ไม่สามารถหรือไม่กล้ากระชากหน้ากากของนายเมืองซึ่งตอนนี้ห่มผ้าเหลืองบังกายอยู่ออกมาให้ผู้คนเห็นความจริงได้ ตนในฐานะพุทธศาสนิกชนคนหนึ่งก็จะพยายามเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับมุมมืดของพระเมืองให้สังคมรับรู้มากที่สุด เชื่อว่าสักวันหนึ่งผู้คนที่เคารพศรัทธาตัวเขาจะต้องรับรู้ความจริง เหลือบไรศาสนาก็ถูกกำจัด
