ศูนย์ข่าวศรีราชา - ข่าวดี! สาวเมืองโคราชเฝ้ารอลูกริมถนนเมืองสัตหีบหลังพลัดพรากจากกันเพราะพิษโควิด-19 จนต้องกลายเป็นคนเร่ร่อน วันนี้ได้พบหน้าลูกชายเรียบร้อยแล้ว และยังได้ผู้ใจบุญยื่นมือช่วย พร้อมฝากขอบคุณทุกแรงใจยันไม่มีการเปิดบัญชีขอรับบริจาค
จากกรณีที่ผู้สื่อข่าวได้นำเสนอเรื่องราวสุดแสนรันทดของหญิงชาวโควราช วัย 44 ปี ที่ทุกวันต้องออกมานั่งรอลูกชายวัย 17 ปี บริเวณริมถนนสุขุมวิท เส้นทางเตาถ่าน-สัตหีบ ตรงข้ามห้างเทสโก้โลตัส สาขาสัตหีบ ม.5 ต.สัตหีบ ด้วยหวังจะได้พบหน้าลูกชายที่หายจากห้องเช่านานเกือบ 2 สัปดาห์ หลังตนเองต้องตกงานจากพิษโควิด-19 จนไม่มีเงินจ่ายค่าเช่าห้องพักจนต้องกลายเป็นคนเร่ร่อนหลับนอนริมถนน
พร้อมนำภาพถ่ายลูกชายเมื่อครั้งยังเรียนอยู่ชั้นประถมศึกษาโรงเรียนบ้านสัตหีบ ติดตัวไว้เพื่อให้ผู้คนช่วยตามหา จนทำให้มีผู้คนมากมายแสดงความเห็นใจและต้องการยื่นมือเข้าช่วยเหลือเป็นจำนวนมากนั้น
วันนี้ (26 มี.ค.) นางวันเพ็ญ เขียวไพรี สาวโคราชวัย 44 ปี ได้พบหน้าลูกชายคือ นายวายุ เขียวไพรี เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดย นายวายุ ได้ติดต่อมายังผู้สื่อข่าวตั้งแต่ช่วงคืนที่ผ่านมา หลังสื่อมวลชนแขนงต่างๆ ได้ช่วยกันเผยแพร่ภาพข่าวการตามหาลูกอย่างมีความหวังของสาวชาวโคราช จนทำให้ในวันนี้ 2 แม่ลูกได้พบหน้ากันอย่างมีความสุข
ไม่เพียงเท่านั้น บรรดาญาติๆ ที่ทราบข่าวการหายตัวไปของ นายวายุ ยังได้ช่วยกันออกตามหาและเดินทางมารับตัว นางวันเพ็ญ เพื่อให้กลับไปอยู่ด้วยกันที่บ้านเกิด และยังบอกว่ายินดีให้ความช่วยเหลือแม้ทุกคนจะมีฐานะยากจนและหาเช้ากินค่ำก็ตาม
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า จากการให้ความสนใจของผู้คนมากมายที่ทราบเรื่องราวของ 2 แม่ลูกที่ต้องพลัดพรากจากกัน ขณะนี้ได้เกิดเรื่องน่ายินดีขึ้นมากมายเมื่อผู้คนในโลกออนไลน์จำนวนมากพากันแสดงความจำนงให้การช่วยเหลือ
ไม่เว้นแม้แต่กลุ่มสื่อมวลชนในพื้นที่เมืองสัตหีบ และผู้ใจบุญที่ได้ช่วยกันมอบเงินส่วนตัวจำนวน 4,000 บาท ให้แก่ นางวันเพ็ญ เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในเบื้องต้นและยังช่วยกันหาห้องเช่าแห่งใหม่ให้ 2 แม่ลูกได้พักอาศัยอยู่ด้วยกันอีกครั้ง
โดยห้องเช่าแห่งนี้ยังมีเฟอร์นิเจอร์ครบครันที่จะช่วยให้ 2 แม่ลูกอยู่กันได้สบายขึ้น ซึ่งกลุ่มผู้ใจบุญยังได้ช่วยกันจ่ายค่าเช่าห้องล่วงหน้า 2 เดือนๆ ละ 1,600 บาท และจัดซื้อพัดลม 1 ตัว ในราคา 800 บาท ให้ 2 แม่ลูก นอกจากเจ้าของ “ร้านยำนางยักษ์” ได้ช่วยรับ นางวันเพ็ญ เข้าทำงานล้างจานเพื่อให้มีรายได้เลี้ยงตนเองและลูกชาย
ขณะที่ นางวันเพ็ญ ได้ฝากขอบคุณทุกกำลังใจที่ให้การช่วยเหลือและส่งแรงใจช่วย พร้อมบอกว่าจะไม่ขอเปิดบัญชีรับบริจาคอีกด้วย