ศูนย์ข่าวศรีราชา - คึกคักสุดขีดเลือกตั้งเทศบาลตำบลตะเคียนเตี้ย จ.ชลบุรี หัวหน้ากลุ่ม “เรารักตะเคียนเตี้ย” ลงทุนเปิดห้องแกรนด์บอลลูม นำลูกทีมแจงนโยบายทำงานช่วงโค้งสุดท้ายก่อนถึง 28 มี.ค.
วันนี้ (21 มี.ค.) กลุ่มเรารักตะเคียนเตี้ย นำโดย นายมานพ ประกอบธรรม อดีตนายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลตะเคียนเตี้ย ในฐานะหัวหน้ากลุ่มและผู้สมัครนายกฯ หมายเลข 1 ได้นำลูกทีมทั้ง 2 เขตเลือกตั้ง หมายเลข 1-6 เปิดห้องประชุมแกรนด์บอลลูม โรงแรมอมารี พัทยา จ.ชลบุรี
เพื่อแถลงผลงานและนโยบาย 5 ด้านตามยุทธศาสตร์การทำงานพัฒนาท้องถิ่นตะเคียนเตี้ยที่ดำเนินงานมานานกว่า 20 ปี โดยมีสื่อมวลชนและชุมชนที่สนใจเข้าซักถามในช่วงโค้งสุดท้ายของการหาเสียงเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 28 มี.ค.นี้
นายมานพ ประกอบธรรม ผู้สมัครเลือกตั้งนายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลตะเคียนเตี้ย เผยว่า ตลอดการทำงานพัฒนาท้องถิ่นมาตั้งแต่เมื่อครั้งยังเป็นองค์การบริหารส่วนตำบล กระทั่งมีการยกฐานะเป็นเทศบาล ทีมงานของตนเองได้มุ่งเน้นทำงานที่จะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิต
โดยได้กำหนดนโยบายการทำงาน 5 ด้านคือ 1.การพัฒนาการศึกษาท้องถิ่นสู่ยุคดิจิทัล 2.การพัฒนาแหล่งการเรียนรู้ ส่งเสริมอาชีพและการท่องเที่ยวให้ทันสมัย โดยการนำนวัตกรรมสมัยใหม่ๆ ผสมผสานกับความรู้ดั้งเดิมเพื่อให้ได้ผลผลิตที่นำความเข้มแข็งและความภูมิใจมาสู่ชุมชนอย่างยั่งยืน
3.สนับสนุนการกีฬา ห่างไกลยาเสพติด โดยเฉพาะการสร้างทีมอะคาเดมีด้านกีฬาฟุตบอลให้แก่เยาวชน การจัดทำลานกีฬา X-Treme และการเตรียมการจัดตั้งศูนย์การสื่อสารระบบคอมพิวเตอร์ในรูปแบบ 5G
4.พัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชน ทั้งระบบสาธารณูปโภคที่เข้าถึงได้ และการพัฒนาสวนสาธารณะในทุกหมู่บ้านด้วยการบริจาคที่ดินกว่า 140 ไร่
และ 5.การน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวงรัชกาลที่ ๙ มาใช้ในการทำงานเพื่อบ้านเมือง
หัวหน้ากลุ่มเรารักตะเคียนเตี้ย ยังกล่าวถึงการลงสมัครรับเลือกตั้งในครั้งนี้ว่า เพราะต้องการต่อยอดงานเก่าและสานต่องานใหม่ซึ่งยังมีหลายสิ่งที่จะต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วน เช่น การจัดทำผังเมือง EEC ที่จะต้องสอดคล้องกับการพัฒนาในอนาคตโดยเฉพาะการส่งเสริมอาชีพ รายได้ และเศรษฐกิจให้แก่พื้นที่
ส่วนกรณีที่มีข้อสงสัยว่าการเลือกตั้งในครั้งนี้มีผู้สมัครจาก 2 ทีม ซึ่งอดีตเป็นทีมงานกลุ่มเดียวกันแต่ปัจจุบันได้มีการแยกกลุ่มออกไปลงรับสมัครเลือกตั้งนั้น
หัวหน้ากลุ่มเรารักตะเคียนเตี้ย เผยว่า ทุกคนล้วนเป็นพี่น้องกันและพร้อมที่จะทำงานเพื่อบ้านเมืองไปด้วยกัน เนื่องจากการทำงานต้องคำนึงถึงผลประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับมากกว่า
