ศูนย์ข่าวศรีราชา - รวบ 2 แม่ลูกหลอกซื้อขายทองคำแท่งทางออนไลน์ อ.เกาะสีชัง โดยหลอกล่อให้ร่วมซื้อทองในราคาถูกกว่าท้องตลาดผ่านเฟซบุ๊ก ชื่อ "บ้านออมเงินออมทองซ้อเจี๊ยบ" โดยมีประชาชนหลงเชื่อได้โอนเงินเพื่อซื้อทองถูกกว่าท้องตลาด มูลค่าเสียหายเกือบ 10 ล้านบาท
ตามนโยบายของ พล.ต.ท.รอย อิงคไพโรจน์ ผู้ช่วย ผบ.ตร.รรท.ผบช.ภ. 2 พล.ต.ต.ธิติ แสงสว่าง รอง ผบช.ภ.1 รรท.ผบก.ภ.จว.ชลบุรี ได้สั่งการให้ตำรวจในสังกัดออกทำการติดตามจับกุมคดีที่เกี่ยวกับการหลอกลวงฉ้อโกงประชาชนทางสื่อออนไลน์ทั้งหลาย อันเป็นการซ้ำเติม ประชาชนช่วงวิกฤตเศรษฐกิจโควิด-19
วันนี้ (19 มี.ค.) พ.ต.อ.เมฆาวิศ ประดิษฐ์ผล รอง ผบก.ภ.จว.ชลบุรี พ.ต.อ.ธรรมรัฐ อัครไชยพงศ์ ผกก.สภ.เกาะสีชัง ได้ร่วมกันจับกุมตัวผู้ต้องหา 2 คน คือ น.ส.พิกุลแก้ว ต้นโพธ์ หรือ น.ส.วิภารัศมิ์ พงศ์รัตน์ดำรง หรือเจี๊ยบ และนางนิวร ต้นโพธิ์ แม่ของ น.ส.พิกุลแก้ว ในข้อกล่าวหาว่า ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจไปตับกุมตัวนางนิวร ต้นโพธิ์ ได้ที่จังหวัดอุบลราชธานี ส่วน น.ส.พิกุลแก้ว ต้นโพธิ์ ถูกจับได้ที่จังหวัดฉะเชิงเทรา
ด้าน น.ส.วรรณปรียา ทรงปัญญา อายุ 34 ปี เปิดเผยว่า คนร้ายทั้ง 2 คน ได้ร่วมกันชักชวนกลุ่มผู้เสียหายซึ่งเป็นชาวบ้านใน อ.เกาะสีชังให้ร่วมซื้อทองในราคาถูกกว่าท้องตลาด โดยใช้กลุ่มเฟซบุ๊กชื่อ "บ้านออมเงินออมทองซ้อเจี๊ยบ" โดยมีประชาชนหลงเชื่อได้โอนเงินเพื่อซื้อทองถูกกว่าท้องตลาดตามที่ผู้ต้องหากล่าวอ้าง เช่น ทองครึ่งสลึงราคา 3,200 บาท มาเสนอขายในราคา 2,000-2,200 บาท ซึ่งต่ำกว่าราคาตลาดถึง 1,000 บาท และจะได้เงินที่ลงทุนคืนภายใน 8-15 วัน แล้วแต่กรณี
โดยช่วงแรกๆ ที่ผู้เสียหายโอนเงินให้นั้น ผู้ต้องหาจ่ายผลตอบแทนตามที่นัดหมายไว้จนผู้เสียหายตายใจ จึงได้ลงเงินไปซื้อทองเพิ่มขึ้นอีกจำนวนมาก โดยเฉพาะตนเองเสียไปทั้งสิ้นกว่า 8 แสนบาท แต่เมื่อถึงเวลาผู้ต้องหากลับไม่จ่ายผลตอบแทนให้ตามที่ตกลงกันไว้ และเมื่อทวงถามกลับผู้ต้องหาบ่ายเบี่ยงจนผู้ต้องหาปิดโทรศัพท์ติดต่อไม่ได้ และหลบหนีไปในที่สุด ตนเองจึงรู้ตัวว่าถูกหลอกแน่นอน จึงได้มาแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนเพื่อให้ดำเนินการตามกฎหมาย ซึ่ง มูลค่าความเสียหายเบื้องต้นประมาณ 8.7 ล้านบาท
จากการสอบสวนทราบว่า ผู้ต้องหาได้ก่อเหตุลักษณะเดียวกันนี้ในหลายท้องที่ ภ.จว.ชลบุรี จึงขอประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนท่านใดที่โดนโกงในลักษณะนี้สามารถแจ้งความร้องทุกข์ต่อท้องที่เกิดเหตุได้ทุกท้องที่ เนื่องจากมีข้อมูลว่ามีผู้เสียหายจากการถูกฉ้อโกงแบบนี้ในพื้นที่จังหวัดชลบุรี และอีกหลายจังหวัดใกล้เคียงด้วย