เพชรบุรี - รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 โชว์ผลงานเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เพชรบุรี จับไอซ์ จำนวน 184 กิโลกรัม ยาบ้ากว่า 2 ล้านเม็ด มูลค่ารวมกว่า 1 พันล้านบาท เตรียมส่งลงภาคใต้ โดยใช้รถบัสทัศนศึกษาของเด็กนักเรียนขนส่ง
เวลา 09.00 น.วันนี้ (19 มี.ค.) ที่ห้องชุดปราบปรามยาเสพติด ภ.จว.เพชรบุรี พล.ต.ต.อุดร ยอมเจริญ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 พ.ต.อ.รณกร ประคองศรี ผกก.สภ.ท่ายาง และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ภ.จว.เพชรบุรี ร่วมแถลงข่าวจับกุมนายอมร ชาตะวิทยากูล อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 23/2 หมู่ 9 ต.เกาะยอ อ.เมืองสงขลา จ.สงขลา และนายนราธรหรือเต้ย หงษ์ทอง อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 65/6 หมู่ 6 ต.เกาะยอ อ.เมืองสงขลา จ.สงขลา ผู้ต้องหาลักลอบขนยาบ้าและยาไอซ์ กว่า 30 กระสอบ
พล.ต.ต.อุดร ยอมเจริญ รอง ผบช.ภ.7 เปิดเผยว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 18 มี.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ภ.จว.เพชรบุรี นำโดย ร.ต.อ.รณชัย จันทร์ปรุง รอง สว.สส.ภ.จว.เพชรบุรี ได้รับแจ้งจากสายลับว่ามีการใช้รถทัศนาจร 6 ล้อ ยี่ห้อฮีโน่ สีน้ำเงินคาดลายการ์ตูนญี่ปุ่น หมายเลขทะเบียน 30-4373 สงขลา ข้างรถมีป้ายชื่อพัชรีทัวร์ ได้ทำการลักลอบขนยาเสพติดจำนวนมากในพื้นที่ จ.ราชบุรี และกำลังมุ่งหน้าลงสู่ภาคใต้ ร.ต.อ.รณชัย จึงประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่ายาง ร่วมสกัดจับกุมได้ที่ถนนเพชรเกษมฝั่งขาล่องใต้ บริเวณสามแยกท่ายาง อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี พบมีนายอมร เป็นผู้ขับขี่ และมีนายนราธร เป็นเด็กติดรถมาด้วย
จากการตรวจค้นภายในบริเวณช่องเก็บของใต้รถทั้ง 2 ช่อง พบกระสอบปุ๋ยขนาดใหญ่ซุกซ่อนอยู่ เมื่อตรวจสอบพบเป็นยาไอซ์บรรจุอยู่ในถุงชาสีทอง ระบุภาษาจีนที่ถุงพลาสติก จำนวน 138 ถุง รวมยาไอซ์ 184 กิโลกรัม และตรวจพบยาบ้ารวมทั้งหมด 2,990,000 เม็ด รวมมูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาท
สอบสวนนายอมร รับสารภาพว่า ตน และนายนราธร ได้รับการว่าจ้างจากนาย กวาง (ไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง) อายุประมาณ 40 ปี ชาว จ.สงขลา ได้ว่าจ้างให้ไปขนยาเสพติดที่วัดหัวป่า อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี เมื่อมาถึงที่วัดตน และนายนราธร ได้ช่วยกันขนย้ายยาบ้าและยาไอซ์จากท้ายกระบะรถยนต์อีซูซุ สีดำ ขึ้นไปซุกซ่อนภายในรถทัวร์คันดังกล่าว จากนั้นขับรถมุ่งหน้าเพื่อนำยาบ้าและยาไอซ์ไปส่งที่ จ.พัทลุง กระทั่งมาถูกจับกุมดังกล่าว
พล.ต.ต.อุดร กล่าวว่า ต้องขอขอบคุณแหล่งข่าวที่ให้ข้อมูลแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจจนสามารถจับกุมยาเสพติดล็อตใหญ่นี้ได้อย่างรวดเร็ว หากยาเสพติดล็อตนี้หลุดรอดไปยังต่างประเทศจะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นถึง 2 เท่า ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังทำการขยายผลถึงตัวการใหญ่และผู้ร่วมขบวนการแล้ว คาดว่าจะได้ตัวในเร็วๆ นี้
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย จากนั้นนำตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป