เชียงใหม่ - เชียงใหม่ยังเผชิญฝุ่นควันและค่ามลพิษอากาศเกินค่ามาตรฐานต่อเนื่อง กองทัพภาคที่ 3 จัดกำลัง 6 ชุดลาดตระเวนป้องกันพร้อมดับไฟป่าในเขตอุทยานดอยสุเทพ-ปุย ขณะที่กระทรวงทรัพย์ฯ จัดเฮลิคอปเตอร์หนุนกำลังภาคพื้นดับไฟไหม้อุทยานแห่งชาติศรีลานนา ป้องกันเชื้อไฟคุกรุ่นในตอไม้ปะทุซ้ำ
วันนี้ (19 มี.ค. 64) สภาพตัวเมืองเชียงใหม่ยังคงถูกปกคลุมด้วยฝุ่นควันอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าจะเบาบางลงจากช่วงสัปดาห์ที่แล้ว อย่างไรก็ตาม ค่าฝุ่นละออง PM 2.5 และดัชนีคุณภาพอากาศยังคงสูงเกินค่ามาตรฐานอยู่ในระดับที่เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ ขณะที่วานนี้พบว่าเกิดไฟไหม้ป่าบริเวณดอยสุเทพ ทิศตะวันออกเฉียงเหนือของพระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ ตำบลสุเทพ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ใกล้ลานกางเต็นท์ ซึ่งเจ้าหน้าที่ระดมกำลังเข้าทำการดับไฟอย่างเร่งด่วน และสามารถควบคุมสถานการณ์ไว้ได้ในช่วงเย็นวันเดียวกัน
ทั้งนี้ รายงานผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศของกรมควบคุมมลพิษจากสถานีตรวจวัดในพื้นที่ตำบลช้างเผือก, ตำบลศรีภูมิ และตำบลสุเทพ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ พบว่าค่าฝุ่น PM 2.5 เฉลี่ยในรอบ 24 ชั่วโมง เมื่อเวลา 09.00 น. อยู่ที่ 75 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร, 81 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และ 59 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ตามลำดับ จากค่ามาตรฐานไม่เกิน 50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ส่วนค่าดัชนีคุณภาพอากาศอยู่ที่ 162, 177 และ 121 ตามลำดับ จากค่ามาตรฐานไม่เกิน 100
ด้าน พลตรี ถนัดพล โกศัยเสวี รองแม่ทัพภาคที่ 3 ในฐานะรองผู้บัญชาการกองบัญชาการควบคุมสถานการณ์ไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองภาคเหนือ กองทัพภาคที่ 3 ส่วนหน้า เปิดเผยว่า กองบัญชาการควบคุมสถานการณ์ไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองภาคเหนือ กองทัพภาคที่ 3 ส่วนหน้าจัดชุดลาดตระเวน 6 ชุดปฏิบัติการ ร่วมกับสำนักป้องกันปราบปรามและควบคุมไฟป่า กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ห้วงวันที่ 20-23 มี.ค. 64 เพื่อบูรณาการลาดตระเวนป้องปรามป้องกันการเผาป่าในพื้นที่อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย
ขณะที่เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติศรีลานนาและเจ้าหน้าที่ดับไฟป่าเร่งดับไฟที่ยังคุกรุ่นอยู่ในตอไม้และยอดไม้ในเขตอุทยานแห่งชาติศรีลานนา อำเภอพร้าว จังหวัดเชียงใหม่ หลังเกิดไฟไหม้และเจ้าหน้าที่ได้เข้าไปดับไฟแล้ว แต่ยังพบว่ามีกลุ่มควันลอยขึ้นมาจากตอไม้เนื่องจากยังมีไฟติดอยู่ภายใน จึงได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่เข้าดับซ้ำเพื่อไม่ให้ไฟลุกปะทุขึ้นมาเป็นรอบที่สอง โดยอุทยานแห่งชาติศรีลานนามีเนื้อที่ประมาณ 878,750 ไร่ ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของภาคเหนือ หรืออันดับ 8 ของประเทศ มีพื้นที่ครอบคลุม 3 อำเภอ คือ อำเภอแม่แตง อำเภอเชียงดาว และอำเภอพร้าว ซึ่งแต่ละปีจะเกิดไฟป่าลุกลามเป็นบริเวณกว้างเนื่องจากสภาพป่าที่แห้งแล้ง ประกอบกับเป็นพื้นที่ภูเขาสูง และมีหน้าผา ทำให้การเข้าดับไฟทำได้ด้วยความยากลำบาก
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้ส่งเฮลิคอปเตอร์บินโปรยน้ำดับไฟ ควบคู่ไปกับการเข้าพื้นที่ดับไฟของเจ้าหน้าที่ภาคพื้นดิน และหลังจากดับไฟเสร็จแล้วจะได้ส่งเจ้าหน้าที่ออกลาดตระเวนสำรวจแนวดำ และดับตอไม้ที่ยังคุกรุ่นอยู่เพื่อไม่ให้เชื้อไฟปะทุขึ้นมาอีก สำหรับจุดความร้อนที่เกิดขึ้นในจังหวัดเชียงใหม่เช้าวันนี้มีจำนวน 42 จุด พบมากที่สุดที่อำเภอเชียงดาว 13 จุด รองลงมาคืออำเภออมก๋อย 8 จุด อำเภอแม่แตง 7 จุด
