ศูนย์ข่าวศรีราชา - โรงเรียนเอกชนชื่อดังเมืองศรีราชา ยันไม่มีนโยบายไล่ออก 8 นักเรียนก่อเหตุรุุมทำร้ายเพื่อนจนกลายเป็นข่าวดัง สั่งผู้ปกครองดูแลก่อน 7 วันป้องกันผลกระทบทางใจ เชื่อสามารถเปลี่ยนพฤติกรรมได้ ส่วนนักเรียนที่ถูกกระทำอาการดีขึ้นแล้ว โรงเรียนรับผิดชอบค่ารักษาทั้งหมด
จากกรณที่เพจดัง Drama-addict ได้เผยแพร่คลิปหลุดนักเรียนทำร้ายร่างกายกันในโรงเรียนเอกชนชื่อดังเมืองศรีราชา ซึ่งตั้งอยู่ริมถนนสุขุมวิท พร้อมตั้งคำถามเกี่ยวกับการที่กลุ่มนักเรียนชายรุมทำร้ายนักเรียนเพียงคนเดียว สถานศึกษาดังกล่าวจะจัดการกับเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างไร พร้อมติดแฮชแท็ก #รร ติดถนนย่านศรีราชา จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในโลกออนไลน์ กระทั่งผู้บริหารสถาบัน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ต้องเร่งหามาตรการป้องกันการก่อเหตุซ้ำนั้น
ล่าสุด วันนี้ (18 มี.ค.) บาทหลวง ผศ.ดร.ชาติชาย พงษ์ศิริ ผู้อำนวยการโรงเรียนเอกชนชื่อดังเมืองศรีราชา จ.ชลบุรี ได้เปิดห้องประชุมเพื่อตอบข้อซักถามสื่อมวลชนที่เดินทางมาติดตามความคืบหน้าการจัดการปัญหาที่เกิดขึ้น พร้อมเปิดเผยว่าหลังเกิดเหตุทางโรงเรียนได้หาแนวทางระงับผลกระทบที่จะเกิดกับเด็กนักเรียนทุกฝ่าย
โดยให้นักเรียนชาย 8 คนที่ก่อเหตุรุมทำร้ายเพื่อนนักเรียนเพียงคนเดียวอยู่ในความดูแลของผู้ปกครองเป็นเวลา 1 สัปดาห์ เพื่อลดผลกระทบทางด้านจิตใจ ก่อนจะเร่งสร้างความเข้าใจเพื่อให้นักเรียนได้กลับมาใช้ชีวิตในโรงเรียนได้ตามปกติ และไม่ต้องมีความกังวลในเรื่องการเรียน
"สาเหตุที่ทางโรงเรียนไม่ลงโทษเด็กที่ก่อเหตุด้วยการไล่ออก เพราะมีความเชื่อว่าเด็กที่กระทำผิดสามารถปรับเปลี่ยนความประพฤติให้ดีได้ ซึ่งการก่อเหตุในครั้งนี้เด็กนักเรียนไม่ได้มีความโกรธแค้นกันแต่เป็นเพราะอยู่กันคนละห้อง ส่วนสาเหตุน่าจะเกิดจากการสื่อสารไม่เข้าใจกัน และเป็นไปตามอารมณ์ของเด็กที่อยู่ในช่วงนี้ และที่ผ่านมานักเรียนกลุ่มก่อเหตุกไม่เคยก่อเหตุทะเลาะวิวาท"
บาทหลวง ผศ.ดร.ชาติชาย พงษ์ศิริ ยังเผยถึงมาตรการเยียวยานักเรียนที่ถูกกระทำว่า ทางโรงเรียนได้รับผิดชอบค่ารักษาพยาบาลทั้งหมด และหลังจากนักเรียนกลับมาเรียนตามปกติก็จะมีอาจารย์เข้าทำความเข้าใจเช่นเดียวกับเด็กที่ก่อเหตุ
"ส่วนอาการเด็กที่บาดเจ็บที่ยังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลนั้น ขณะนี้อาการดีขึ้นแล้วและพบว่ามีรอยฟกช้ำตามร่างกาย เจ็บปวดตามร่างกายเล็กน้อยเท่านั้น และยังสามารถพูดคุยได้ตามปกติ โดยจะออกจากโรงพยาบาลได้ในเร็วๆ นี้" บาทหลวง ผศ.ดร.ชาติชาย กล่าว