xs
xsm
sm
md
lg

เปิดใจหนึ่งในผู้บาดเจ็บจากศึก 2 สำนักตีกัน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



พระนครศรีอยุธยา - เปิดศึก 2 สำนักสักยันต์ตีกันวุ่น 1 ในผู้บาดเจ็บเปิดใจนาทีชุลมุน รวมถึงความเสียหายที่เกิดขึ้น ด้านตำรวจเตรียมออกหมายเรียก

จากกรณีเมื่อวันที่ 16 มี.ค.ที่ผ่านมา มีสำนักสักยันต์บ้านมีดี อยู่ย่านจรัญสนิทวงษ์ จำนวนกว่า 300 คน ส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่น หนุ่มฉกรรจ์ มาปิดล้อมสำนักสักยันต์อุทยานถ้ำเสือ ขณะที่กำลังประกอบพิธีไหว้ครูภายในสำนักสักยันต์อุทยานถ้ำเสือ พร้อมกับตะโกนด่าทอด้วยถ้อยคำต่างๆ นานา กล่าวหาว่าสำนักสักยันต์ของอาจารย์พยัคฆ์ ลบหลู่ดูถูกสำนักสักยันต์บ้านมีดี ทางเฟซบุ๊ก

โดยนำภาพภาษาจีนของบ้านมีดี ซึ่งเป็นสัญลักษณ์เป็นที่รู้จักผู้เคารพศรัทธาของเหล่าลูกศิษย์บ้านมีดี แต่อาจารย์อ๋อง นครมนต์ ครูอาจารย์ของอาจารย์พยัคฆ์ เจ้าสำนักสักยันต์แห่งอุทยานถ้ำเสือ ได้นำมาถือโพสต์ลงในเฟซบุ๊กว่า เป็นของแท้ออกมาจากอาจารย์อ๋อง ทำให้คนทั่วไปเข้าใจผิดสร้างความเสียหาย เปรียบเหมือนทางสำนักสักยันต์อุทยานถ้ำเสือไม่เคารพ และลบหลู่สำนักสักยันต์บ้านมีดี ลูกศิษย์จึงยกกำลังมาปิดล้อม และบุกทำร้ายอาจารย์ที่กำลังประกอบพิธีอยู่ด้านในได้รับบาดเจ็บ และข้าวของเสียหาย ตัวอุทยานก็ได้รับความเสียหาย

ล่าสุด วันนี้ (17 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางมายังอุทยานถ้ำเสือ ตำบลดอนหญ้านาง อำเภอภาชี จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พบกับ นายวชิรพงศ์ อ่องจุ้ย อายุ 37 ปี หรืออาจารย์โก๊ะเก่ง พบว่า ที่เบ้าตาขวามีร่องรอยถูกทำร้ายจนเขียวช้ำ และยังพาไปชี้ดูจุดที่ถูกทำลายข้าวของได้รับความเสียหายภายในอุทยาน แต่ถูกจัดเก็บใหม่เรียบร้อยแล้ว ตรวจสอบตัวอุทยานถ้ำเสือ พบว่า มีร่องรอยการใช้สเปรย์สีแดงฉีดพ่น ตัวของอุทยานถูกเหยียบทำลายจนปูนแตกร้าวหักลงมาเป็นชิ้นๆ ข้าวของพัดลมกระจัดกระจายอยู่หน้าอุทยานและได้พูดคุยกับตัวอาจารย์โก๊ะเก่ง กล่าวว่า

วันที่เกิดเหตุ เป็นวันที่ทางอาจารย์อ๋อง และอาจารย์พยัคฆ์ ได้มีการจัดพิธีบวงสรวงอุทยานถ้ำเสือ โดยมีการรวมตัวของกลุ่มระดับอาจารย์และลูกศิษย์ต่างสาย ต่างจังหวัดมารวมตัวกันทำพิธีบวงสรวงไหว้ครูที่อุทยานถ้ำเสือแห่งนี้ จนเป็นเหตุให้ทางฝั่งบ้านมีดี ซึ่งมีการระหองระแหงกันก่อนแล้วรู้ว่า เรื่องที่มีลูกศิษย์ชาวจีนนำแผ่นป้ายภาษาจีนมาให้อาจารย์อ๋องถือ แล้วถ่ายรูปลงโซเชียล แล้วรู้ว่า ทางกลุ่มของอาจารย์อ๋อง กับอาจารย์พยัคฆ์ รวมครูบาอาจารย์กันที่อุทยานแห่งนี้

ทำให้ทางฝั่งบ้านมีดีนัดรวมพลกันมาที่อุทยานดังกล่าว และบุกเข้ามาทำร้ายครูบาอาจารย์ภายในอุทยาน ซึ่งขณะนั้นได้มีการทำพิธีโดยมีทั้งครูบาอาจารย์และลูกศิษย์กำลังทำพิธีอยู่ประมาณเกือบ 100 คน แต่ทางฝั่งบ้านมีดี ยกพวกมากันเป็นจำนวนมากโดยมาทั้งรถส่วนตัวและรถตู้ตั้งใจที่จะเข้ามาหาเรื่อง และทำร้าย จนมีคนได้รับบาดเจ็บและข้าวของเสียหาย  ซึ่งอาจารย์เก่ง กล่าวว่า สิ่งที่ทางฝั่งบ้านมีดีทำนั้นไม่สมควรเนื่องจากว่าเราเป็นถึงครูบาอาจารย์ควรจะวางตัวให้เหมาะสม หรือคุยกันด้วยเหตุผล ไม่สมควรที่จะยกพวกมาทำร้ายกันแบบนี้

ด้าน พ.ต.ท.อนันต์ ปานทอง ร้อยเวรประจำวัน เปิดเผยว่า สืบเนื่องมาจากเหตุการณ์เมื่อวานได้มีคลิปเผยแพร่เป็นข่าว ที่มีการก่อเหตุยกพวกมาทำร้ายร่างกายกันภายในอุทยานถ้ำเสือ จนมีข้าวของเสียหายและรถยนต์ได้รับความเสียหาย 2 คัน เบื้องต้น ยังไม่มีใครเดินทางมาแจ้งความดำเนินคดีเนื่องจากทางฝั่งผู้บาดเจ็บยังคงนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลราชธานี

เมื่อช่วงบ่ายวันนี้ ที่สถานีตำรวจภูธรภาชี อำเภอภาชี จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบกับ พ.ต.อ.กันตพงศ์ นิลขำ ผกก.สภ.ภาชี เพื่อสอบถามความคืบหน้ากรณีมีเหตุการณ์ศึก 2 สำนัก ตีกันวุ่นวายขณะอีกฝ่ายทำพิธีบวงสรวงภายในอุทยานถ้ำเสือ ชนวนเหตุมีการพาดพิงกันในเฟซบุ๊ก ว่าทางอุทยานถ้ำเสือ ได้เดินทางมาแจ้งความดำเนินคดีกับทางฝั่งกลุ่มผู้ก่อเหตุแล้วใน 3 ข้อหาคือ 1.บุกรุก 2.ทำร้ายร่างกาย และ 3.ทำลายทรัพย์สิน ทางพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี จะมีการออกหมายเรียกทุกคนที่เกี่ยวข้องเข้ามาสอบปากคำ และจะมีการดำเนินคดีกับบุคคลที่อยู่ในคลิปทั้งหมด

พ.ต.อ.กันตพงศ์ นิลขำ ผกก.สภ.ภาชี เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ได้มีการไหว้บวงสรวงสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของสำนักสักยันต์เสือสมิง ในเขตภาชี ได้มีการทำพิธีตั้งแต่เช้า พอตกช่วงเวลาประมาณ 10 โมงเช้า มีอีกสำนักหนึ่งทราบชื่อภายหลังสำนักบ้านมีดี ได้เข้ามาขอคุยกับอาจารย์สำนักสักยันต์เสือสมิง เพื่อจะคุยเจรจากันให้ขอโทษในการโพสต์ในสื่อโซเชียลม ส่วนอาจารย์ในสำนักเสือสมิงเกรงจะเกิดอันตรายเพราะสำนักบ้านมีดีมากันเป็น 100 คนกลัวจะไม่ปลอดภัย ขนาดอยู่ระหว่างเจรจากันอยู่นั้นก็มีกลุ่มคนฮือกันเข้าไปรุมทำร้ายในสำนักทำให้เกิดความเสียหายเกิดการบาดเจ็บในสำนักขึ้น

ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จัดกำลังทั้ง สภ.ภาชี สภ.ท่าเรือ สภ.อุทัย เพื่อมาตรึงกำลังระงับเหตุไม่ให้เกิดเหตุ แต่เนื่องจากมีผู้คนจำนวนมาก อีกทั้งฝูงชนกลุ่มนี้มีความเชื่อในสิ่งศักดิ์สิทธิ์ มีความเชื่อในการลงของจึงเกิดความฮึกเหิมกล้าเข้าปะทะ ไม่ได้เกรงกลัว เจ้าหน้าที่จึงไม่สามารถที่จะยับยั้งกำลังของทั้งสองฝ่ายได้ ทำให้ผู้บาดเจ็บมีทั้งอาจารย์คนที่อยู่ในสำนักหลายท่าน

เบื้องต้น ทางผู้เสียหายได้เดินทางมาแจ้งความที่ สภ.ภาชี ใน 3 ข้อหาคือ 1.บุกรุก 2.ทำร้ายร่างกาย และ 3.ทำลายทรัพย์สิน ส่วนรายละเอียดที่ผู้บาดเจ็บยังรักษาตัวอยู่จะทยอยเข้ามาแจ้งความเพิ่มต่อไป 
 
ทั้งนี้ เนื่องจากยุคปัจจุบันเป็นยุคโซเชียลไม่เป็นการยากที่จะดึงกลุ่มคนซึ่งมีหลายคนได้ถ่ายมือถือไลฟ์สด ซึ่งตอนนี้ชุดสืบสวนกำลังรวบรวมภาพต่างๆ จากสื่อออนไลน์มาให้ผู้เสียหายชี้ตัวว่าใครเป็นใคร








กำลังโหลดความคิดเห็น