ฉะเชิงเทรา - ผงะ! หนุ่มโรงงานชวนเพื่อนออกวางกับดักหนูนาในหนองน้ำเขต อ.ราชสาส์น แต่กับเจอโครงกระดูกมนุษย์โผล่จากโคลน รีบแจ้งตำรวจเข้าตรวจสอบ เบื้องต้น ยังไม่รู้เป็นโครงกระดูกของใคร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 02.30 น.วันนี้ (6 มี.ค.) พ.ต.ต.สมบัติ บุญค้ำ สารวัตรเวรสอบสวน สภ.ราชสาส์น จ.ฉะเชิงเทรา ได้เข้าตรวจสอบบริเวณหนองน้ำ "หนองอ้อ" ริมถนนสายพนมสารคาม-บ้านสร้าง ม.8 ต.ดงน้อย อ.ราชสาส์น หลังรับแจ้งจากหน่วยกู้ภัยพนมสารคามว่า มีชาวบ้านพบกองกระดูกมนุษย์ลักษณะหนอนหงายโผล่จากหนองน้ำ
ตรวจสอบอย่างละเอียดพบโครงกระดูกมนุษย์ที่มีทั้งกะโหลกศีรษะ กระดูกซี่โครง ส่วนกระดูกท่อนแขนและขาบางส่วนสภาพมีร่องรอยการกัดแทะจากสัตว์ และยังพบเสื้อแขนยาวไม่ทราบสีจมอยู่ในโคลน
จากสอบถามชาวบ้านในพื้นที่ทราบว่า เมื่อ 1 เดือนก่อนบริเวณดังกล่าวเคยมีคนเลี้ยงเป็ดไล่ทุ่งเข้ามาพักอาศัยก่อนจะย้ายออกไปเมื่อประมาณ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา จึงไม่ทราบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกันกับโครงกระดูกที่พบหรือไม่
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้บันทึกภาพและเก็บหลักฐานโดยรอบ ก่อนจะให้อาสาสมัครหน่วยกู้ภัยพนมสารคาม เก็บรวบรวมกองกระดูกนำส่งไปชันสูตรทางนิติวิทยาศาสตร์ ที่โรงพยาบาลศูนย์การแพทย์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี อ.องครักษ์ จ.นครนายก
ขณะที่ พ.ต.ต.สมบัติ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ทราบกองกระดูกที่พบเป็นของเพศชายหรือหญิง แต่คาดว่าน่าจะเสียชีวิตมานานแล้ว ซึ่งแพทย์จากโรงพยาบาลราชสาส์น ที่ร่วมเดินทางลงพื้นที่เพื่อชันสูตรคาดว่าโครงกระดูกที่พบน่าจะเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 1 เดือน
ด้าน นายระวี แสงสี อายุ 25 ปี ชาวบ้านที่พบกองกระดูก บอกว่า ในช่วงคืนที่ผ่านมาตนเองและเพื่อนร่วมงานอีก 3 คน ได้พากันออกมาวางกับดักจับหนูนาในท้องทุ่งย่าน อ.ราชสาส์น กระทั่งเวลาประมาณเที่ยงคืนจึงได้เดินไล่จับหนูมาจนถึงบริเวณหนองน้ำที่แห้งขอดแห่งนี้ กระทั่งพบโครงกระดูกมนุษย์ จึงรีบวิ่งมาแจ้งชาวบ้านให้ช่วยแจ้งตำรวจเข้าตรวจสอบ
และยังบอกอีกว่า ในช่วงเย็นก่อนพลบค่ำเพื่อนรุ่นพี่ที่ออกมาดักหนูด้วยกันได้มองเห็นโครงกระดูกมนุษย์ก่อนแล้ว แต่เข้าใจว่าเป็นซากของสุนัข จึงไม่สนใจเดินเข้ามาดูใกล้ๆ กระทั่งในช่วงที่มีการเดินไล่จับหนูจึงได้เข้ามาสังเกตกองกระดูกอย่างละเอียดอีกครั้ง จึงมั่นใจว่าเป็นกองกระดูกมนุษย์
