เชียงใหม่ - ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 คาดหนุ่มหนีคดีฉ้อโกงลั่นไกดับเมีย 2 คนที่จับเป็นตัวประกันก่อนยิงตัวตายตามคาห้องพักคอนโดฯ หรูเชียงใหม่ตั้งแต่วานนี้ แต่รอแพทย์นิติเวชและ จนท.พิสูจน์หลักฐานตรวจสอบสรุปแน่ชัด เบื้องต้นพบจดหมายลาสั่งเสียฝากดูแลลูก ญาติไม่ติดใจสงสัยใดๆ
วันนี้ (6 มี.ค. 64) ความคืบหน้าเหตุนายสุเมธ ครองวงศ์ อายุ 25 ปี ชาวจังหวัดพะเยา ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาพระโขนงในคดีฉ้อโกงหลอกลวงขายทะเบียนรถเลขสวย ใช้อาวุธปืนจับเมีย 2 คนเป็นตัวประกัน เหตุเกิดที่ห้องพักชั้น 3 คอนโดมิเนียมหรูแห่งหนึ่งติดกับที่ทำการธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคเหนือ ตำบลช้างเผือก อำเภอเมืองฯ จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งชุดปฏิบัติการพิเศษตำรวจภูธรภาค 5 ได้จัดกำลังปิดล้อมโดยรอบจุดเกิดเหตุเพื่อสังเกตอย่างใกล้ชิดและประเมินสถานการณ์ต่อเนื่องมาตั้งแต่วานก่อนและตลอดคืนที่ผ่านมา กระทั่งเช้าวันนี้เจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการพิเศษได้ทำการจู่โจมเข้าไปในห้องที่เกิดเหตุหลังพบว่าทั้ง 3 คนเสียชีวิตแล้ว โดยมีบาดแผลถูกอาวุธปืนยิง
พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 เปิดเผยว่า ทางเจ้าหน้าที่ได้เปิดประตูเข้าไปในห้องพักที่เกิดเหตุตรวจสอบพบว่านายสุเมธพร้อมภรรยาทั้ง 2 คนได้เสียชีวิตแล้ว สภาพศพถูกอาวุธปืนยิงเข้าที่บริเวณศีรษะ นอนเสียชีวิตอยู่บนเตียง ขณะเดียวกัน พบจดหมายของนายสุเมธเขียนลงบนกระดาษข้อความถึงญาติฝากให้ช่วยดูแลลูกด้วย ทั้งนี้ คาดว่านายสุเมธน่าจะเป็นผู้ลงมือยิงภรรยาทั้ง 2 คนก่อนที่จะยิงตัวเอง ตั้งแต่ช่วงเย็นวานนี้ (5 มี.ค.) ที่มีเสียงปืน 3 นัด อย่างไรก็ตาม ทางแพทย์นิติเวช และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานกำลังรวบรวมหลักฐานเพื่อข้อสรุปที่แน่ชัดอีกครั้ง
ทั้งนี้ ทางครอบครัวและญาติไม่ติดใจสงสัยใดๆ ทั้งสิ้น เพราะเห็นการทำงานของเจ้าหน้าที่มาตั้งแต่ต้นที่มีการช่วยเหลือนำตัวลูกสาวของนายสุเมธออกมาได้ตั้งแต่วานนี้ ส่วนภรรยาทั้ง 2 คน ที่ชื่อนางสาววิว ที่เป็นแม่ของลูก กับนางสาวออย ที่เป็นผู้ต้องหามีหมายจับคดีเดียวกันกับนายสุเมธไม่ยอมออกมาด้วย อีกทั้งญาติรู้นิสัยใจคอของนายสุเมธเป็นอย่างดีว่าเป็นคนก้าวร้าว มั่นใจตัวเองสูง และยืนยันตั้งแต่ต้นว่าหากถูกจับยอมตายดีกว่า
สำหรับหมายจับนายสุเมธ และ น.ส.อาณดา ปิยะรักษ์ หรือออย อายุ 18 ปี ที่เป็นภรรยาอีกคนนั้น พล.ต.ท.ประจวบบอกว่า เป็นหมายจับ สน.คลองตัน คดีร่วมกันฉ้อโกง, ความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และความผิดฟอกเงิน จากการก่อเหตุหลอกขายป้ายทะเบียนรถเลขสวย ผ่านเว็บไซต์ www.monkeylucky44.com ที่มีผู้เสียหายจำนวนมากในพื้นที่ตำรวจนครบาล อย่างไรก็ตาม ไม่ทราบจำนวนผู้เสียหายและมูลค่าความเสียหายที่แน่ชัด เพราะเป็นคดีของตำรวจนครบาล