ศูนย์ข่าวศรีราชา - รักษาการประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวชลบุรี เชื่อวัคซีนโควิด-19 ยังไม่ใช่คำตอบสุดท้ายมาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจ-ท่องเที่ยว แต่ต้องยกเลิกมาตรการกักตัว 14 วันสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ฉีดวัคซีนครบ 2 โดส ไม่เช่นนั้นพัทยาอาจไม่ใช่จุดหมายปลายทาง
ภายหลังจากที่รัฐบาลได้กระจายวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (วัคซีน Sinovac) ล็อตแรกจำนวน 200,000 โดสที่ได้รับจากประเทศจีน ไปยังจังหวัดที่พบการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างรุนแรง และ 1 ในนั้นคือ จ.ชลบุรี ซึ่งได้รับการจัดสรรในล็อตแรก จำนวน 4,700 โดส
และเมื่อวานนี้ จ.ชลบุรี ยังได้ทำการฉีดวัคซีนเข็มแรกให้แก่นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ประชาชนในพื้นที่ก่อนกระจายไปยังอำเภอต่างๆ เพื่อฉีดให้แก่บุคลากรทางการแพทย์ และเจ้าหน้าที่กลุ่มเสี่ยงก่อนที่จะฉีดให้ประชาชนในล็อตต่อๆ ไปเพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ประชาชนและนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้ามาเยือน จ.ชลบุรี นั้น
ล่าสุด นายธเนศ ศุภรสหัสรังสี รักษาการประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวชลบุรี ได้แสดงความคิดว่าการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ในความเห็นส่วนตัวเชื่อว่าจะยังไม่มีผลต่อการขับเคลื่อนภาคการท่องเที่ยวในเมืองพัทยา จ.ชลบุรี มากนัก
เนื่องจากมาตรฐานด้านสาธารณสุขได้กำหนดว่าพื้นที่ใดที่จะรับนักท่องเที่ยวได้จะต้องมีประชาชนในพื้นที่ไม่น้อยกว่า 65% ได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ครบแล้ว 2 ทั้งโดส และประชาชนในพื้นที่ตามความหมายของสาธารณสุขจะต้องไม่จำกัดเฉพาะคนที่มีทะเบียนบ้านเท่านั้น แต่ยังหมายถึงประชาชนที่พักอาศัยและประกอบอาชีพในพื้นที่นั้นๆ ด้วย
และสิ่งสำคัญของการฟื้นฟูการท่องเที่ยวในประเทศไม่ได้ขึ้นอยู่กับการฉีดวัคซีนโควิด-19 เพียงอย่างเดียว แต่จะต้องขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น การนำเข้าวัคซีนโควิด-19 ของรัฐบาลที่จะต้องเพียงพอต่อจำนวนประชากร รวมทั้งการกระจายวัคซีนที่จะต้องทั่วถึง
“ซึ่งหากรัฐบาลมองว่าการท่องเที่ยวเป็นฐานสำคัญของการพัฒนาทางเศรษฐกิจ รัฐก็จะต้องจัดสรรวัคซีนมายังเมืองท่องเที่ยวให้เพียงพอ ไม่ว่าจะเป็นทั้งที่ภูเก็ต พัทยา หรือกรุงเทพฯ เป็นอันดับต้นๆ”
อย่างไรก็ดี ปัจจุบันพบว่ามีบางประเทศที่เปิดรับนักท่องเที่ยวโดยไม่ต้องมีการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้แก่ประชาชนในประเทศมากถึง 65% ของจำนวนที่มีทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นมัลดีฟส์ หรือมอริเชียส แต่ได้กำหนดให้มีการฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชนเพียง 20% ของจำนวนรวมทั้งหมด
ขณะเดียวกัน ยังเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวที่ได้รับการวัคซีนครบจำนวน 2 โดส และมีวัคซีนพาสปอร์ตสามารถเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศได้โดยไม่ต้องกักตัวเป็นเวลา 14 วัน
“สำหรับกลุ่มประเทศแถบทวีปยุโรปไม่ว่าจะเป็นอังกฤษ หรือยอรมนี ที่ประชากรได้รับการฉีดวัคซีนครบทั้ง 2 โดสตามข้อกำหนดด้านสาธารณสุข เชื่อว่าในช่วงซัมเมอร์ที่จะถึงนี้ (เม.ย.-พ.ค.) น่าจะมีการเปิดประเทศเพื่อให้ประชาชนสามารถเดินทางออกไปท่องเที่ยวได้ แต่ในส่วนของไทยยังจะต้องรอดูก่อนว่าจะเปิดรับนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ได้หรือไม่ เพราะยังมีเงื่อนไขเรื่องการกักตัว 14 วันอยู่”
และหากเป็นเช่นนี้เชื่อว่า หากนักท่องเที่ยวมีเป้าหมายปลายทางที่ใกล้กว่าและไม่ต้องเข้ารับการกักตัวเป็นเวลา 14 วัน ก็เชื่อว่านักท่องเที่ยวจะไม่เลือกเดินทางเข้ามาในประเทศไทยอย่างแน่นอน
“แม้ที่ผ่านมามักจะมีคนพูดว่าประเทศไทยน่าท่องเที่ยว แต่นักท่องเที่ยวเองคงไม่อยากเสียเวลาในการกักตัว อีกทั้งหากถูกกักตัวนานเงินที่เตรียมมาใช้จ่ายด้านการท่องเที่ยวจะหมดไปกับค่าที่พัก สุดท้ายต้องเลือกไปประเทศที่มีมาตรการผ่อนปรนมากกว่า ซึ่งหากเป็นเช่นนี้การท่องเที่ยวของเมืองพัทยา คงต้องใช้เวลาอีกประมาณ 3-4 ปี จึงจะฟื้นตัว” นายธเนศ กล่าว