เชียงใหม่ - เชียงใหม่คิกออฟฉีดวันแรกวัคซีนโควิด-19 หลัง สบค.ยกเป็น 1 ใน 18 จังหวัดแรก พร้อมจัดให้ 8.5 หมื่นโดสเฟสแรก ทยอยฉีด 3 เดือนให้แก่ 4 กลุ่มเสี่ยงที่เป็นหน้าด่าน เริ่มเดือนแรก 3,500 โดส
วันนี้ (1 มี.ค. 64) ที่โรงพยาบาลนครพิงค์ อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วย นายแพทย์ ธงชัย เลิศวิไลรัตนพงษ์ ผู้ตรวจราชการสาธารณสุขเขต 1, นายแพทย์ จตุชัย มณีรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ และนายแพทย์ วรเชษฐ เต๋ชะรักษ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนครพิงค์ ร่วมกันเป็นประธานในการดำเนินการฉีดวัคซีนโควิด-19 ในกลุ่มเป้าหมายระยะแรก ที่ประกอบด้วย 4 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ กลุ่มเจ้าหน้าที่ต่างๆ ที่จะมีโอกาสสัมผัสโรค เช่น เจ้าหน้าที่ท่าอากาศยาน ตำรวจ เจ้าหน้าที่ด่านคัดกรอง อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) กลุ่มผู้มีโรคประจำตัว และกลุ่มแรงงาน/กลุ่มประชาชนทั่วไปผู้ที่มีโอกาสจะติดเชื้อจากการประกอบอาชีพ
โดยผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนเป็นลำดับแรกของจังหวัดเชียงใหม่ ได้แก่ นายแพทย์ ธงชัย เลิศวิไลรัตนพงษ์ ผู้ตรวจราชการสาธารณสุขเขต 1 จากนั้นตามด้วย นายวีระพันธ์ ดีอ่อน รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่, นายแพทย์ จตุชัย มณีรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ และนายแพทย์ วรเชษฐ เต๋ชะรักษ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนครพิงค์ ตามลำดับ ซึ่งรอบแรก เดือนมีนาคม 64 จำนวน 3,500 โดสนั้นจะเริ่มฉีดให้กลุ่มเป้าหมาย อายุ 18-59 ปี จำนวน 1,750 คน, บุคลากรสาธารณสุขด่านหน้า เจ้าหน้าที่ที่ดูแลหรือต้องสัมผัสกับผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทั้งรัฐและเอกชน จำนวน 1,450 คน และเจ้าหน้าที่อื่นๆ ของหน่วยงานที่มีโอกาสเสี่ยงสัมผัสกับผู้ติดเชื้อจำนวน 300 คน ซึ่งจะทำการฉีดที่โรงพยาบาลนครพิงค์ทั้งหมด
ทั้งนี้ ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค.ได้พิจารณาให้จังหวัดเชียงใหม่เป็น 1 ใน 18 จังหวัดแรกที่ได้รับการจัดสรรวัคซีนโควิด-19 ในช่วง 3 เดือนแรกนี้จำนวนทั้งสิ้น 83,500 โดส ด้วยจังหวัดเชียงใหม่เป็นพื้นที่ที่มีการระบาดบ่อยและเป็นพื้นที่ทางเศรษฐกิจ ซึ่งวัคซีนในระยะแรกนี้เป็นวัคซีนซิโนแวค สาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งจังหวัดเชียงใหม่มีแผนการฉีดวัคซีนในเดือนมีนาคมจำนวน 3,500 โดส เดือนเมษายน 30,000 โดส และเดือนพฤษภาคมอีกจำนวน 50,000 โดส ขณะที่ประชาชนทั่วไปจะได้รับการฉีดในระยะที่ 2 ห้วงเดือนพฤษภาคม-เดือนธันวาคม 2564 ซึ่งจะเป็นวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า และขอให้ประชาชนมั่นใจว่าวัคซีนที่นำมาใช้นั้นมีความปลอดภัย เป็นไปตามมาตรฐานขององค์การอนามัยโลก โดยคาดว่าจะสามารถฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชนครอบคลุมทั่วทั้งจังหวัดภายในปลายปีนี้