จ.ตราดเตรียมเปิดตัวแหล่งท่องเที่ยวใหม่ "พระพุทธรูป​จมน้ำ" ในเรือนจำเขาระกำ

ตราด -​ จ.ตราด เตรียมเปิดตัวแหล่งท่องเที่ยวใหม่ภายในเรือนจำเขาระกำ หลังพัฒนาพื้นที่ลานหน้าพระพุทธรูปจมน้ำเพื่อเปิดทางให้นักท่องเที่ยวได้เข้ากราบสักการะ​ และทำกิจกรรม​ทางศาสนาได้โดยง่าย

วันนี้ (22 ก.พ.)​ ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่สำรวจบริเวณ​ลานสำนักสงฆ์คุณธรรม (เก่า) ซึ่งอยู่ภายในเรือนจำชั่วคราวเขาระกำ จ.ตราด ที่ก่อนหน้านี้ ถูกทิ้งร้างให้เป็นพื้นที่น้ำท่วมหลังโครงการชลประทาน จ.ตราด ต้องการที่จะเพิ่มพื้นที่กักเก็บน้ำ จนส่งผลให้สำนักสงฆ์และศาลาการเปรียญ รวมทั้ง “พระพุทธรูปสิริวดลมงคลชัย” ซึ่งเป็นพระพุทธรูปขนาดใหญ่ต้องจมน้ำมานานกว่า 10 ปี

กระทั่ง นายภิญโญ ประกอบผล ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด มีนโยบายที่จะพัฒนาให้พื้นที่ดังกล่าวเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ของจังหวัด รวมทั้งใช้เป็นสถานที่​สำหรับทำกิจกรรมทางศาสนา เช่น การเวียนเทียนรอบพระพุทธรูปนั้น


ล่าสุด นายอนุวัฒน์ สุจินพร้อม หัวหน้าเรือนจำชั่วคราวเขาระกำ เรือนจำจังหวัดตราด ซึ่งได้รับคำสั่งจาก นายบุญญรัตน์ บุญญาธิการ ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดตราด ให้พัฒนาและปรับปรุงพื้นที่ได้นำผู้ต้องขังชั้นดีกว่า 20 นาย เข้าตัดกิ่งไม้ เก็ยขยะ และใบไม้ที่ร่วงหล่นตั้งแต่บริเวณทางเข้าที่มีสภาพรกร้างเพื่อให้เกิดความสะอาด

พร้อมซ่อมแซมศาลปู่ย่า ด้านหน้าองค์พระพุทธรูป และทำความสะอาดบริเวณลำตัวพระพุทธรูปที่มีคราบดินและตระไคร่ติดอยู่

นอกจากนั้น ยังได้เก็บวัชพืชใต้น้ำเพื่อเปิดทางให้เรือคายัค หรือเรือขนาดเล็กสามารถลอยลำเข้ามาสักการะพระพุทธรูปได้ง่าย เพื่อจัดทำเป็นแหล่งเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง เชื่อมโยงกับการยกระดับแหล่งท่องเที่ยวภายในเรือนจำชั่วคราวเขาระกำ ที่ปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยวสัปดาห์ละหลายพันคน


ทั้งนี้ “พระพุทธรูปสิริวดลมงคลชัย” มีประวัติการก่อสร้างโดยแรงงานชาวมอญที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ ต.วังกระแจะ และใกล้เคียงที่เข้ามารับจ้างกรีดยาง และทำงานด้านการเกษตรกรรมซึ่งมีจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนา​ จึงพร้อมใจกันสร้างสำนักสงฆ์ที่เรียกว่า "สำนักสงฆ์คุณธรรม" ขึ้น

และยังสร้างศาลาการเปรียญ รวมทั้งกุฏิพระ และพระพุทธรูปที่ตั้งชื่อว่า" พระพุทธรูปสิริวดลมงคลชัย" ซึ่งมีขนาดหน้าตักยาวกว่า 5 เมตร และมีความสูงประมาณ 9-10 เมตร เพื่อสักการะบูชา

โดยในทุกปีหลังจากโครงการชลประทาน จ.ตราด เก็บน้ำจนเต็มความจุจะพบว่าพื้นที่แห่งนี้จะมีน้ำท่วมถึงระดับไหล่ของพระพุทธรูป แต่ในช่วงเดือน มี.ค.-เม.ย ทุกปี ระดับน้ำจะลดลง และบางปีสามารถเดินเข้าไปถึงพระพุทธรูปได้อย่างง่ายดายอีกด้วย

และคาดว่าเมื่อมีการปรับสภาพภูมิทัศน์​บริเวณดังกล่าวให้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางศาสนา​แห่งใหม่ของจังหวัด ก็จะได้รับการตอบรับจากนักท่องเที่ยว​เป็นอย่างดี