ตราด - สถานการณ์ไฟป่าชายแดนบ้านมะม่วง อ.บ่อไร่ จ.ตราด สงบแล้ว แต่ยังมีความเสี่ยงลุกโชนได้อีก เหตุยังมีพื้นที่แนวไฟไหม้ตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ขณะที่พื้นที่ภายในป่ายังมีกับระเบิดอีกจำนวนมาก
จากกรณีเมื่อช่วงเช้าวันนี้ (21 ก.พ.) ได้เกิดไฟไหม้ป่าบริเวณเขาบรรทัด 2 ฝั่งถนนขึ้นจุดผ่อนปรนการค้าชายแดนบ้านมะม่วง จนเกิดควันไฟกระจายทั่วพื้นที่ ต.นนทรี อ.บ่อไร่ จ.ตราด ซึ่งหลังเกิดเหตุ ร.ต.ท.คมพัชญ์ ทักษิณ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลนนทรี ได้แจ้งให้ชาวบ้านในพื้นที่โดยเฉพาะบ้านมะม่วง งดการเข้าหาของป่าเนื่องจากยังไม่สามารถดับไฟได้
พร้อมขอให้ชาวบ้านป้องกันตนเองด้วยการสวมหน้ากากผ้า หรือหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันผลกระทบต่อสุขภาพ ขณะที่การเข้าระงับเหตุเป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากจุดที่เกิดไฟไหม้อยู่บริเวณเนิน 400 ซึ่งเป็นจุดสู้รบเก่าที่คาดว่าจะมีกับระเบิดจำนวนมากนั้น
ล่าสุด เมื่อเวลา 11.00 น.ที่ผ่านมา นายประมวล รัตนวรรณ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติน้ำตกคลองแก้ว พร้อมด้วย นายชาตรี หาญพัฒน์ หัวหน้าสถานีควบคุมไฟป่าน้ำตกคลองแก้ว และเจ้าหน้าที่ควบคุมไฟป่า รวมทั้งเจ้าหน้าที่อุทยานคลองแก้ว จำนวน 15 นาย สนธิกำลังร่วมเจ้าหน้าที่ทหารพรานนาวิกโยธินที่ 551 เข้าติดตามสถานการณ์และดับเพลิงที่ยังคงลุกไหม้
โดยพบพื้นที่เกิดเหตุอยู่ห่างจากชายแดนเพียง 400 เมตร บริเวณข้างทางยังพบกอไผ่ขนาดใหญ่ถูกเพลิงไหม้อย่างรุนแรง และมีเสียงดังคล้ายระเบิดที่เกิดจากต้นไผ่ที่ถูกไฟไหม้ รวมทั้งเสียงระเบิดที่เกิดจากกับระเบิดที่ยังเหลืออยู่ เจ้าหน้าที่จึงเร่งตัดต้นกอไผ่ที่กีดขวางทางออกทั้งหมด
ขณะที่ นายประมวล รัตนวรรณ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติน้ำตกคลองแก้ว เผยว่า ไฟไหม้ป่าที่เกิดขึ้นลุกลามมาจากป่าในประเทศเพื่อนบ้านตั้งแต่ช่วงบ่ายวันที่ 19 ก.พ.ที่ผ่านมา ซึ่งในขณะนี้สถานการณ์ไฟไหม้ป่าสงบลงแล้วแต่ได้ทิ้งร่องรอยความเสียหายให้แก่ผืนป่าไม่น้อยกว่า 10 ไร่
แต่ส่วนใหญ่เป็นไม้ไผ่ และไม้ที่ไม่มีคุณค่าทางเศรษฐกิจซึ่งพร้อมที่จะลุกโชนอีกครั้งเพราะยังมีเชื้อไฟหลงเหลืออยู่
อีกทั้งยังมีพื้นที่ไฟไหม้ตลอดเขตแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน จ.ตราด ตั้งแต่ อ.บ่อไร่ ถึง อ.เมืองตราด และใน ต.ไม้รูด อ.คลองใหญ่ จนทำให้เกิดกลุ่มควันปกคลุมในพื้นที่ชายแดน จ.ตราด แต่ก็ยังไม่รุนแรงเหมือนปีที่ผ่านมา