ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - แน่นขนัดทั่วไทย! โคราช-ชัยภูมิ ที่ไม่มีสมาร์ทโฟนแห่เข้าคิวลงทะเบียน “เราชนะ” ที่แบงก์กรุงไทยยาวเหยียดทุกแห่ง ส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ คนจนผู้ยากไร้ ยายวัย 77 ปี โคราชเผยมีค่ามากสำหรับยาย ต่อคิวนานแค่ไหนต้องรอเพื่อแบ่งเบาภาระให้ครอบครัว ด้านคุณยาย-ตาชัยภูมิวัย 80-87 ปี หอบสังขารมาหวังได้เงิน 7,000 บาทไปประทังชีวิต
วันนี้ (15 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศประชาชนชาวจังหวัดนครราชสีมา โดยเฉพาะผู้สูงอายุทยอยเดินทางไปเข้าแถวเพื่อลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ “เราชนะ” ในกลุ่ม 3 ที่ไม่มีสมาร์ทโฟนต้องใช้บัตรจำตัวประชาชนยืนยันตัวตน กันตั้งแต่เช้าหน้าธนาคารธนาคารกรุงไทย โดยธนาคารกรุงไทย สาขาศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา พี่น้องประชาชนส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ คนจน ผู้ยากไร้ที่ไม่มีสมาร์ทโฟนจำนวนกว่า 1,000 คน ได้เดินทางมาต่อคิวเพื่อลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการเราชนะกันอย่างแน่นขนัด บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคึก
ทางธนาคารฯ ต้องตั้งเต็นท์บังแดดจำนวน 10 เต็นท์ ส่วนหนึ่งต้องยืนต่อแถวหน้าธนาคารยาว 50 เมตร ขณะที่มีเจ้าหน้าที่ให้บริการไม่เพียงพอทำให้เกิดความล่าช้า แม้ว่าพนักงานพยายามเร่งให้บริการอย่างเต็มที่แล้วก็ตาม และผู้สูงอายุส่วนใหญ่ไม่รู้เรื่องและไม่เข้าใจ โดยเจ้าหน้าที่พยายามอธิบายและประชาสัมพันธ์ให้ใจเย็นๆ
โดยธนาคารกรุงไทยได้เปิดจุดให้บริการประชาชนที่ไม่มีสมาร์ทโฟนเพื่อลงทะเบียนรับสิทธิโครงการเราชนะ ตั้งแต่วันที่ 15-25 กุมภาพันธ์ 2564 ธนาคารกรุงไทยทุกสาขา และจุดบริการพิเศษ จำนวน 871 จุดทั่วประเทศ ซึ่งในพื้นที่ จ.นครราชสีมา มีจุดบริการพิเศษอยู่ทั้งหมด 12 จุด ได้แก่ ที่ว่าการอำเภอคง, ที่ว่าการอำเภอจักราช, ที่ว่าการอำเภอชุมพวง, ที่ว่าการอำเภอโนนแดง, ที่ว่าการอำเภอโนนสูง, ที่ว่าการอำเภอพระทองคำ, ที่ว่าการอำเภอสีดา, ที่ว่าการอำเภอสูงเนิน, ที่ว่าการอำเภอหนองบุญมาก, ที่ว่าการอำเภอห้วยแถลง, ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา และสำนักงานคลังจังหวัดนครราชสีมา โดยประชาชนผู้ที่ไม่มีสมาร์ทโฟนและไม่เคยลงทะเบียนรับสิทธิช่วยเหลือของรัฐ สามารถนำบัตรประชาชนเพียงใบเดียวมาติดต่อเพื่อให้เจ้าหน้าที่ลงทะเบียนได้ทันที
ทั้งนี้ ประชาชนที่เดินทางมาลงทะเบียนจะต้องเดินทางมาด้วยตัวเอง และให้นำบัตรประชาชนแบบสมาร์ทการ์ดที่ไม่หมดอายุ ไปใช้ประกอบการลงทะเบียนขอรับสิทธิโครงการฯ โดยต้องพิสูจน์และยืนยันตัวตนด้วยการเสียบบัตรประจำตัวประชาชนผ่านเครื่องรูดบัตรอิเล็กทรอนิกส์ (EDC) พร้อมกำหนดรหัส ได้ที่สาขาของธนาคารกรุงไทย หรือจุดบริการที่ธนาคารกรุงไทยกำหนด ส่วนผู้ที่ไม่มีบัตรประชาชนแบบสมาร์ทการ์ด สามารถติดต่อขอทำบัตรได้ที่สำนักงานเขต ที่ว่าการอำเภอ หรือสำนักบริหารการทะเบียน กรมการปกครอง หน่วยบริการจัดทำบัตรเคลื่อนที่ของกรมการปกครอง หรือสำนักงานหรือที่ทำการขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภายในวันที่ 15-25 กุมภาพันธ์ 2564
นางวันเพ็ญ อำพาส คลังจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า สำหรับกลุ่มดังกล่าวหลังจากลงทะเบียนแล้วจะมีการคัดกรองสิทธิตามเงื่อนไขของโครงการต่อไป หากผ่านเกณฑ์จะได้รับเงินงวดแรก จำนวน 4,000 บาท ในวันที่ 5 มีนาคม 2564 หลังจากนั้นจะได้รับเงินจำนวน 1,000 บาท ทุกวันศุกร์ 3 งวด คือ วันที่ 12, 19, 26 มีนาคม 2564 วงเงินดังกล่าว ไม่สามารถกดเป็นเงินสดได้ แต่สามารถสะสมใช้จ่ายได้ถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2564 การใช้จ่ายเงินผ่านบัตรประชาชน สำหรับการซื้อสินค้าหรือชำระบริการได้ที่ร้านค้าธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น ร้านค้าคนละครึ่ง และร้านค้าเราชนะเท่านั้น
คุณยายใหญ่ นัยวิกุล อายุ 77 ปี ผู้สงอายุ กล่าวว่า ตนมาเข้าคิวรอตั้งแต่ยังไม่เปิดธนาคาร 07.00 น. จนถึงตอนนี้ 10.30 น.ได้บัตรคิว 87 ต้องรอไปก่อน ไปลัดคิวเขาไม่ได้ เจ้าหน้าที่ก็ขอให้ใจเย็นๆ ทำไงได้อยากได้สิทธิเหมือนคนอื่นๆ นานหน่อยก็ไม่เป็นไร ไม่ได้ไปไหน ไม่รีบ โครงการนี้แบ่งเบาภาระให้กับครอบครัวได้มาก และมีค่ามากสำหรับยาย
เช่นเดียวกันกับ ที่ จ.ชัยภูมิ บริเวณด้านหน้าธนาคารกรุงไทยทุกสาขา รวมทั้งสาขาศูนย์ราชการ จ.ชัยภูมิ มีประชาชนกว่า 1,000 คน ส่วนมากเป็นผู้สูงอายุ ทั้งชายและหญิง ไม่มีโทรศัพท์มือถือแบบสมารท์โฟน แห่มาเข้าแถวต่อคิวลงทะเบียนโครงการเราชนะตั้งแต่ยังไม่เปิดทำการ ต้องเข้าแถวยาวเหยียดรอเจ้าหน้าที่เรียกตามบัตรคิวเข้าไปลงทะเบียนภายในธนาคาร
โดยในวันแรกนี้ เจ้าหน้าที่ธนาคารช่วยลงทะเบียนให้ จัดเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนผู้ที่ลงทะเบียนได้แล้วแต่ไม่สามารถสแกนใบหน้ายืนยันตัวได้ ให้ติดต่อเจ้าที่ธนาคารกรุงไทยทุกสาขา เพื่อยืนยันตัวตนภายในธนาคาร และในส่วนของประชาชนทั่วไปที่ยังไม่ได้ลงทะเบียนในเว็บไซต์เราชนะ ได้จัดอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนที่อาคารอเนกประสงค์เทศบาลเมืองชัยภูมิซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ ทั้งชายและหญิงที่ไม่มีสมารท์โฟน หลังจากได้บัตรคิวได้เข้าคิวรอเจ้าหน้าที่เรียกไปลงทะเบียนให้จำนวนมากกว่า 1,000 คน
นางคำปึก นเรกุล อายุ 80 ปี ชาวบ้านหนองปลาเฒ่า ต.ในเมือง อ.เมืองฯ จ.ชัยภูมิ เดินทางมาลงทะเบียนเราชนะ พร้อมสามี วัย 87 ปี บอกว่า ที่ผ่านมาไม่ได้รับโครงการคนละครึ่ง เพราะลงทะเบียนไม่เป็น โทรศัพท์มือถือที่ใช้อยู่ใช้สำหรับโทร.ออกและรับเท่านั้น ไม่ใช่สมาร์ทโฟน ใช้ลงทะเบียนเราชนะไม่ได้ จึงได้ถือบัตรประชาชนหวังมาพึ่งเจ้าหน้าที่ธนาคารช่วยเหลือสมัครเข้าร่วมโครงการชัยชนะให้ เพื่อขอรับเงินเยียวยาจากรัฐบาล 7,000 บาท หวังว่าจะเอาเงินไปซื้ออยู่ซื้อกินตามประสาผู้สูงอายุ ซึ่งเป็นโครงการที่ดีที่รัฐบาลได้ออกมาเพื่อช่วยประชาชนในช่วงโควิด-19 ระบาด