ศูนย์ข่าวศรีราชา - ฝนตกถนนลื่นทำเกิดอุบัติเหตุใน จ.ปราจีนบุรี มีผู้เสียชีวิต 2 รายบาดเจ็บสาหัส 2 ราย ส่วนที่ฉะเชิงเทรา รถชนกัน 17 คันรวด บนถนน 304 เส้นทางฉะเชิงเทรา-กบินทร์บุรี ช่วงส่วนขยายใหม่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงเที่ยงวันนี้ (9 ก.พ.) ได้เกิดอุบัติเหตุรถกระบะเสียหลักพุ่งข้ามเลนชนประสานงารถพ่วง 18 ล้อ บนถนนสาย 304 ขาล่องฉะเชิงเทราใกล้กับปั๊มน้ำมันเอสโซ่ ม.3 ต.กรอกสมบูรณ์ อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย และได้รับบาดเจ็บสาหัส 2 ราย
หลังเกิดเหตุ พ.ต.ท.สุวิทย์ ซุยจรุญ สารวัตรสอบสวน สภ.ระเบาะไผ่ ได้ประสานหน่วยกู้ภัยร่วมกตัญญูลงพื้นที่ตรวจสอบ พบรถบรรทุก 18 ล้อ สีขาว หมายเลขทะเบียน 71-3200 นครราชสีมา สภาพชนประสานงากับรถกระบะยี่ห้อโตโยต้าวีโก้ สีดำ หมายเลขทะเบียน ฒร 781 กรุงเทพมหานคร ซึ่งสาเหตุคาดว่าน่าจะเกิดจากถนนลื่นเนื่องจากในจุดเกิดเหตุมีฝนตกลงมาอย่างหนัก
จากการสอบถาม น.ส.หนึ่งฤทัย โมราสูงเนิน อายุ 18 ปี ผู้ได้รับบาดเจ็บที่โดยสารมากับรถกระบะที่มี นายจรูญ (ไม่ทราบนามสกุล) อายุ 37 ปี เป็นคนขับ และนายพอเจตน์ (ไม่ทราบนามสกุล) ร่วมโดยสารมาด้วย ทราบว่าตนเองทั้ง 3 คนได้เดินทางมาจาก อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา มุ่งหน้า จ.นครราชสีมา
แต่เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุรถได้เสียหลักจากสภาพถนนลื่นจนพุ่งข้ามเลนไปชนกับรถบรรทุก 18 ล้อ ที่มีนายอุดมศักดิ์ ดอกจันทร์กลาง เป็นคนขับ เป็นเหตุให้ตนเองได้รับบาดเจ็บ ส่วนคนขับรถพ่วง 18 ล้อ บาดเจ็บสาหัส นายจรูญ คนขับรถกระบะ และนายพอเจตน์ เสียชีวิตคาที่
ฉะเชิงเทราชนวินาศ 17 คันรวดเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา
ขณะที่ในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา ได้เกิดเหตุรถยนต์ชนกัน 17 คันรวด บนถนนสาย 304 เส้นทางฉะเชิงเทรา-กบินทร์บุรี ช่วงส่วนขยายใหม่ระยะ 5.5 กิโลเมตร จากสี่แยกกองพลทหาราบที่ 11 อ.บางคล้า หลังเกิดฝนตกหนัก เหตุเกิดเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ส่วนยานพาหนะพังเสียหายหลายคัน
เจ้าหน้าที่ทหารจากค่ายกองพลทหารราบที่ 11 ค่ายสมเด็จพระนั่งเกล้า ต้องออกมาช่วยเหลือผู้ประสบอุบัติเหตุ พร้อมเร่งเคลียร์พื้นผิวการจราจรร่วมกับเจ้าหน้าที่แขวงการทางฉะเชิงเทรา และอาสาสมัครหน่วยกู้ภัยฉะเชิงเทรา หลังมีเศษซากยานพาหนะกระจัดกระจายเกลื่อนถนนรวมระยะทางกว่า 1 กิโลเมตร
ด.ต.จำลอง จะเชิญรัมย์ เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงประจำตู้ยามลิงค์ทางหลวงพนมสารคาม สังกัด สทล.1 กองกำกับการ 3 บางปะกง เผยว่า เส้นทางดังกล่าวมักเกิดอุบัติเหตุขึ้นซ้ำซากในทุกๆ ครั้งที่มีฝนตกหนัก สาเหตุน่าจะเกิดจากสภาพผิวถนน ซึ่งที่ผ่านมาได้เคยแจ้งไปยังเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องให้รับทราบแล้วแต่ยังไม่สามารถทำการแก้ไขได้
พร้อมฝากเตือนไปยังผู้ใช้รถใช้ถนนบริเวณดังกล่าวให้เพิ่มความระมัดระวังในการขับขี่