แม่สาย/ท่าขี้เหล็ก - ท่าขี้เหล็กกลับคืนภาวะปกติ การค้าไทย-พม่า คึกคักแล้ว..ขณะที่พม่าปล่อยตัวเครือข่าย NLD รัฐฉานเกือบหมด หลังล็อกตัวชั่วคราวระหว่างกองทัพพม่าปฏิวัติ
วันนี้ (3 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายว่าบรรยากาศการขนส่งสินค้าชายแดนผ่านด่านถาวรแม่สาย สะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา ข้ามลำน้ำสายแห่งที่ 2 เชื่อมกับ จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา ยังคงคึกคักเช่นเดิม หลังจากปิดในช่วงสั้นๆ ขณะกองทัพพม่ายึดอำนาจเมื่อวันที่ 1 ก.พ.ที่ผ่านมา
โดยการขนส่งสินค้ายังคงใช้ระบบและข้อตกลงเดิมที่ศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรค (ศปค.) อ.แม่สาย ได้ตกลงกับทางท้องถิ่นท่าขี้เหล็กผ่านทางคณะกรรมการชายแดนไทย-เมียนมา ระดับท้องถิ่น หรือทีบีซี ที่มีฝ่ายทหารเป็นประธานได้เช่นเดิม เนื่องจากผู้บริหารสำคัญๆ ใน จ.ท่าขี้เหล็ก ยังคงเป็นบุคคลและหน่วยงานเดิม เช่น นายอูมิ้น ไหน่ ผู้ว่าการ จ.ท่าขี้เหล็ก พ.ท.เปี้ยโส่งอ่อง ผบ.กองพันเคลื่อนที่เร็วที่ 293 ซึ่งเป็นประธานทีบีซีฝ่ายเมียนมาอยู่ด้วย ฯลฯ
ขณะที่นายทหารพม่าหลายนายที่ดูแลพื้นที่รัฐฉาน ยังได้รับการเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้นกว่าเดิม เช่น พล.ต.อ่อง ส่อ เอ ซึ่งเคยเป็นแม่ทัพภาคสามเหลี่ยม ที่มีกองบัญชาการอยู่ที่เมืองเชียงตุงและดูแลพื้นที่ชายแดนด้านที่ติดกับภาคเหนือของไทย ได้ย้ายไปเป็นแม่ทัพรัฐฉานเมืองลาเฉียวซึ่งเป็นกองบัญชาการใหญ่ของกองทัพเมียนมาในรัฐฉาน อัตรา พล.ท.ส่วนผู้ที่มารับตำแหน่งแม่ทัพภาคสาเหลี่ยมแทนคือ พล.ต.คิน ลาย ส่วน พ.อ.ต่อ สิ่น อู ผบ.ยุทธศาสตร์ท่าขี้เหล็ก ได้เลื่อนตำแหน่งเป็นพลจัตวาดำรงตำแหน่ง ผบ.เมืองสาท คุมพื้นที่เมืองใหญ่ทางรัฐฉานใต้ที่อยู่ทางภาคตะวันตกของ จ.ท่าขี้เหล็ก
อย่างไรก็ตามช่วงตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ.มีการเข้าควบคุมตัวบุคคลสำคัญที่เกี่ยวข้องกับรัฐบาลพลเรือนหลายคนตั้งแต่มุขมนตรีที่ปกครองฝ่ายปกครองของรัฐฉาน รวมทั้งคณะผู้บริหารคนอื่นๆ หัวหน้าสาขาพรรคเอ็นแอลดีในรัฐฉานรวมทั้งใน จ.ท่าขี้เหล็ก ก็ถูกควบคุมตัวเอาไว้หลายคน แต่ล่าสุดมีรายงานว่าได้มีการปลอยตัวเกือบหมดแล้วหลังจากมีการตั้งคณะรัฐบาลชุดใหม่ ยกเว้นรองหัวหน้าพรรคเอ็นแอลดีสาขา จ.ท่าขี้เหล็ก ที่ยังไม่มีกำหนดการปล่อยตัวที่ชัดเจน
ด้าน พ.อ.สัมฤทธิ์ ฉัตรวัฒนาสกุล ผบ.ฉก.ม.3 กองกำลังผาเมือง และประธานทีบีซีฝ่ายไทย กล่าวว่าตามรายงานข่าวปัจจุบันสถานการณ์ในฝั่งท่าขี้เหล็ก ยังคงเป็นปกติมีเพียงบางจุดที่มีความสำคัญเท่านั้นที่มีการคงกำลังทหารไว้ สำหรับเรื่องอื่นๆคลี่คลายมากขึ้นเรื่อยๆ และกิจการภายในประเทศเพื่อนบ้านจะสามารถจัดการได้ภายในตัวเอง ดังนั้นภาคธุรกิจต่างๆ ยังสามารถติดต่อค้าขายได้ตามปกติโดยปฏิบัติตามมาตรการป้องกันไวรัสโควิด-19 ที่ จ.เชียงราย ได้กำหนดเอาไว้ด้วย ด้านฝ่ายทหารไทยยังคงใช้กำลังทหารชุดเดิมที่ใช้ป้องกันการหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายต่อไป.