xs
xsm
sm
md
lg

“ลุงพล” ควงทนายแถลงพร้อมสู้คดีรุกป่าสร้างพญานาค ไม่เสียดายงบ 6 แสนเพราะเป็นเงินเอฟซีบริจาค

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


นายไชย์พล วิภา หรือลุงพล พร้อมด้วยนายสมเกียรติ โรจนวรกมล ทนายความส่วนตัว ตั้งโต๊ะแถลงต่อสู้คดีบุกรุกป่าสงวน
มุกดาหาร - “ลุงพล” แถลงข่าวประกาศสู้คดี ปทส. ทั้งไม่เสียดายงบกว่า 6 แสนบาทที่ทุ่มสร้างวังพญานาคเพราะเป็นเงินบริจาคของเหล่า FC ที่โอนเข้าบัญชีมาช่วยสร้างกว่าล้านบาท ด้านทนายความขอสังคมอย่าเพิ่งตัดสินลุงพลเป็นคนผิด ให้ศาลเป็นผู้ตัดสิน


จากกรณีการก่อสร้างรูปปั้นองค์พญานาคของนายไชย์พล วิภา หรือลุงพล โดยเมื่อวันที่ 27มกราคม 64 ตำรวจปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือ ปทส. พร้อมเจ้าหน้าที่ป่าไม้มุกดาหาร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สนธิกำลังกว่า 50 นาย เข้าควบคุมตัวนายไชย์พล ไปสอบคำให้การ ที่ สภ.กกตูม อ.ดงหลวง 

โดยพนักงานเจ้าหน้าผู้จับกุม ได้แจ้ง 3 ข้อกล่าวหาให้ผู้ถูกจับกุม ประกอบด้วย กระทำผิดตาม พรบ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา 54 ฐานกระทำด้วยประการใดอันเป็นการทำลายป่าไม้ หรือเข้ายึดถือครอบครองป่าเพื่อตนเอง หรือผู้อื่น และมาตรา 55 ฐานครอบครองป่าที่ได้ถูกแผ่วถาง โดยฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติแห่งมาตรา 54 ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่า บุคคลนั้นแพ้วถางป่า และกระทำผิดตาม พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 มาตรา 14 ฐานยึดถือครอบครอง เข้าทำประโยชน์ หรือ อยู่อาศัยในที่ดิน ก่อสร้าง แผ้วถาง ทำไม้ หรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการทำให้เสื่อมเสียสภาพป่าสงวนแห่งชาติ

ล่าสุดวันนี้ (28 ม.ค.) นายไชย์พล วิภา หรือลุงพล พร้อมด้วย นายสมเกียรติ โรจนวรกมล ทนายความลุงพล ได้ตั้งโต๊ะแถลงข่าวในคดีความที่ลุงพลถูกฟ้องร้องทั้ง 3 ข้อกล่าวหา


นายสมเกียรติกล่าวว่า ตนเป็นทนายความมืออาชีพ มาทำแค่คดีรุกพื้นที่ป่าสงวน และ พ.ร.บ.ป่าไม้ การทำคดีความตรงนี้อยากให้สังคมอย่าเพิ่งตัดสินลุงพลว่าเป็นคนผิดไปแล้ว ผู้ที่จะตัดสินคือศาล กรณีการสร้างวังพญานาคนั้นได้เปิดรับบริจาค และทำไปแล้ว ไม่สามารถแก้ไขได้ ก็ต้องตรวจสอบกันไป ตอนนี้ขอเวลารวบรวมหลักฐานก่อน


ด้านนายไชย์พล วิภา หรือลุงพล กล่าวว่า ตนเป็นชาวบ้าน ไม่รู้เรื่องกฎหมาย เรื่องคดีทั้งหมดขอให้ทนายความเป็นผู้ดำเนินการ ตนรู้ว่าพื้นที่นี้เป็นป่าสงวน ไม่มีเอกสารสิทธิ แต่การก่อสร้างปลูกสร้างจะไปสู้ในชั้นศาล การสร้างพญานาคนี้ไม่ได้อยู่อาศัย หวังให้คนกราบไหว้ตามศรัทธา หากตั้งตู้บริจาคก็ว่ากันไป ส่วนเหตุการณ์ที่เจ้าหน้าที่มาปักป้ายนั้น ตนดีใจที่เจ้าหน้าที่มาปักป้ายทำให้ถูกต้องตามกฎหมาย

เรื่องเงินที่ทำไปก่อนหน้านี้จำนวนกว่า 600,000 บาทตนก็ไม่ได้เสียดายอะไร เพราะเป็นเงินของเอฟซี และเชื่อว่าเอฟซีจะเข้าใจ




กำลังโหลดความคิดเห็น