เชียงใหม่ผนึกกำลังทุกภาคส่วนแก้ฝุ่นควัน ไฟป่า เน้นจัดการเชื้อเพลิงแทนห้ามเผา ตั้งเป้าลด PM 2.5 และจุดความร้อน 25%

เชียงใหม่ - จังหวัดเชียงใหม่ผนึกกำลังกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องขับเคลื่อนการบริหารจัดการไฟป่าและฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ตั้งเป้าลดจุดความร้อน (Hot Spot) และ PM 2.5 ลงร้อยละ 25 จากปีที่ผ่านมา เน้นการดำเนินการเชิงรุกมากกว่าเชิงรับโดยให้ชุมชนมีส่วนร่วม และมุ่งจัดการเชื้อเพลิงเป็นหลัก


นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ นำหัวหน้าหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งหน่วยงานในสังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม, สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่, นักวิชาการ และสภาลมหายใจ สรุปผลการดำเนินงานแก้ไขปัญหาไฟป่าและฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ในช่วงที่ผ่านมา หลังมีการถอดบทเรียนของปัญหาที่เกิดขึ้นในทุกปี และปรับแผนบริหารจัดการเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยในปีนี้ได้เน้นให้ความสำคัญเชิงพื้นที่จากล่างขึ้นบน คือ จากชุมชน หมู่บ้าน ตำบล อำเภอ จังหวัด จัดงบลงไปให้ถึงคนทำงาน มีการให้ท้องถิ่น โดยเฉพาะในหมู่บ้านที่เป็นจุดเสี่ยงเกิดไฟไหม้ซ้ำซากกว่า 400 หมู่บ้าน พร้อมจัดทำแผนเสนอแนวทางการแก้ไขปัญหา และทางจังหวัดเชียงใหม่ตั้งเป้าลดการเกิดจุดความร้อนและ PM 2.5 จากปีที่ผ่านมาลงร้อยละ 25 เน้นการดำเนินการเชิงรุกมากกว่าเชิงรับ เช่น การป้องกันไฟป่า ทำแนวกันไฟ บริหารจัดการเชื้อเพลิง ชิงเก็บ ลดเผา ปลูกป่า ซึ่งทุกภาคส่วนต้องช่วยกัน


ทั้งนี้ ถือเป็นปีแรกที่จังหวัดเชียงใหม่ไม่มีประกาศห้ามเผาอย่างเด็ดขาด แต่ยังคงมีการบังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับการเผาอยู่ และเน้นการจัดการเชื้อเพลิงเป็นหลัก ซึ่งแบ่งพื้นที่ออกเป็น 2 โซน คือโซนใต้ ตั้งแต่เดือนมกราคมถึงกุมภาพันธ์ ขณะที่โซนเหนืออยู่ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์จนถึงเมษายน โดยสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ 1 (เชียงใหม่) กรมป่าไม้ ระบุว่า ในปี 2563 จังหวัดเชียงใหม่มีการประกาศช่วงเวลาห้ามเผา แต่มีพื้นที่ถูกเผาไหม้ไปจำนวน 1.3 ล้านไร่ มีจุดความร้อนสะสมมากถึง 21,600 จุด ปีนี้มีการตั้งเป้าจะบริหารจัดการเชื้อเพลิงตลอดเดือนมกราคมถึงเดือนเมษายนให้ได้เดือนละ 125,000 ไร่ รวม 500,000 ไร่ ตั้งแต่เดือนมกราคมถึงวันนี้บริหารจัดการเชื้อเพลิงไปแล้ว 110,000 ไร่ ทั้งนี้ หากเทียบจำนวนจุดความร้อนที่เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 1 มกราคมเป็นต้นมาจนถึงวันนี้ ในปี 2563 มีจุดความร้อนอยู่ประมาณ 1,000 จุด ปีนี้มีสะสมเพียง 500 จุด ถือว่าลดลงร้อยละ 50 ซึ่งหากทุกภาคส่วนบูรณาการกำลังในการแก้ไขปัญหาต่างๆ อย่างเต็มที่จะช่วยให้จังหวัดเชียงใหม่ผ่านพ้นวิกฤตหมอกควันนี้ไปได้