กาญจนบุรี - นาทีระทึก!! เจ้าหน้าที่บินโดรน พลาดถูกไฟช็อตโดรนร่วงจมน้ำ ตัดสินใจดำน้ำค้นหา แต่ไปจะเอ๋กับจระเข้นอนอยู่ในโพรง ต่างฝ่ายต่างว่ายน้ำหนี คาดมีหลายตัว ส่วนมือปราบอสรพิษชื่อดังเตรียมลุยพรุ่งนี้
จากกรณี นายคีรี แย้มศิรี อายุ 40 ปี ชาวบ้านหมู่ 6 ต.ตะคร้ำเอน อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี ออกไปตกปลาที่ลำคลองท่าสาร-บางปลา ท้องที่หมู่ 9 ต.ตะคร้ำเอน อ.ท่ามะกา แต่ปรากฏพบจระเข้ขนาดใหญ่ ลำตัวยาวกว่า 2 เมตร ลอยตัวลักษณะกำลังจะอาบแดดอยู่ฝั่งตรงกันข้าม เหตุเกิดช่วงเวลาประมาณ 11.00 น.ของวันที่ 17 ม.ค.ที่ผ่านมา ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้ว
ล่าสุด วันนี้ (18 ม.ค.) นายอนุชา หอยสังข์ นายอำเภอท่ามะกา เดินทางลงพื้นที่ไปวางแผนหาวิธีการจับจระเข้ตัวดังกล่าว ร่วมกับนายเฉลิมพนธ์ หงษ์ยนต์ ประธานชมรมกู้ภัยทางน้ำ ภาค 7 หรือโก๊ะใหญ่ นักประดาน้ำชื่อดังเมืองกาญจน์ และนายนิรุทธ์ ชมงาม ฉายามือปราบอสรพิษ นักจับงูพิษด้วยมือเปล่าชื่อดังระดับประเทศ โดยมีนายก อบต.ตะคร้ำเอน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม
โดยออกทำการสำรวจสภาพพื้นที่บริเวณริมฝั่งของลำห้วยอย่างละเอียด และประสานไปยังกรมชลประทาน ขอให้ปิดประตูส่งน้ำลงในลำคลอง เพื่อให้น้ำลดและกระแสน้ำจะได้นิ่ง เมื่อแผนการดังกล่าวสำเร็จจะนำเรือยนต์ออกลาดตระเวนสำรวจไปตามลำคลองในช่วงเวลากลางคืน เนื่องจากหากไฟส่องสว่างไปกระทบกับดวงตาของจระเข้ ก็จะทราบและสามารถจับจระเข้ได้ในทันที
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่นายเฉลิมพนธ์ หงษ์ยนต์ ประธานชมรมกู้ภัยทางน้ำ ภาค 7 ได้นำโดรนมาบินสำรวจพื้นที่ลำคลองทางอากาศ รอบแรกบินเหนือน้ำได้เพียงแค่ประมาณ 10 เมตร เพราะไม่สามารถบินต่ำได้มากกว่านี้เนื่องจากมีต้นไม้ขึ้นปกคลุมอยู่หนาแน่น โดยการบินสำรวจได้บินสำรวจไปตามลำคลองในรัศมี 1 กิโลเมตร พวว่า ยังไม่พบสิ่งผิดปกติ หรือจุดที่คาดว่าจระเข้จะหลบอยู่ จึงยุติภารกิจลง หลังจากนั้น นายเฉลิมพนธ์ จึงตัดสินในนำโดรนบินสำรวจเป็นรอบที่ 2 แต่ครั้งนี้เกิดผิดพลาดเมื่อบังคับบินไปไกลประมาณ 900 เมตร โดรนบินไปใกล้กับสายไฟฟ้าแรงสูง และเกิดไฟฟ้าช็อตจนโดรนระเบิดตกลงไปในลำคลอง
นายเฉลิมพนธ์ และนายศักดิ์ชัย หงษ์ยนต์ จึงได้ร่วมกันดำน้ำเพื่อค้นหาที่ความลึกประมาณ 4 เมตร ระหว่างดำน้ำอยู่นั้น สายตาเหลือบมองไปเห็นจระเข้กำลังว่ายอยู่ใต้ท้องน้ำ สร้างความตกใจให้ทุกคนเป็นอย่างมาก จึงรีบว่ายน้ำขึ้นฝั่งเพื่อเอาตัวรอด
โดยนายศักดิ์ชัย เล่าวินาทีตื่นเต้นที่พบจระเข้ ว่า ตนกับนายเฉลิมพนธ์ ดำน้ำลงไปค้นหาโดรนอยู่ 3 รอบ จนเท้าของตนไปเตะโดนวัตถุอะไรบางอย่าง จึงหันหน้าไปมองดูพบว่าเป็นจระเข้ กำลังนอนอยู่ในโพรงดินใต้น้ำ ขณะนั้รู้สึกตกใจเป็นอย่างมากจึงรีบว่ายน้ำขึ้นฝั่งทันที ส่วนจระเข้เองก็ว่ายน้ำหนีด้วยเช่นกัน จากการสังเกตพบว่า จระเข้ที่พบมีขนาดลำตัวใกล้เคียงกับที่ชาวบ้านพบเห็นที่จุดแรก และนอกจากนี้ ยังมีโพรงอยู่ใต้ท้องน้ำห่างออกไปประมาณ 10 เมตร จึงเชื่อได้ว่าจระเข้ที่พบไม่น่าจะมีเพียงแค่ตัวเดียว
ขณะเดียวกัน นายเทิดศักดิ์ จันทร์ที่สุด อายุ 19 ปี คนงานก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง สายบางใหญ่-กาญจนบุรี ที่ตั้งแคมป์พักอยู่ริมคลองในท้องที่ ต.ดอนชะเอม ซึ่งเป็นรอยต่อระหว่าง ต.ดอนชะเอม กับ ต.ตะคร้ำเอน ที่อยู่ห่างจากจุดที่คนตกปลาพบจระเข้ในท้องที่หมู่ 9 ประมาณ 8-9 กิโลเมตร กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ได้ตนเจอจระเข้ โดยเห็นครั้งแรกเมื่อประมาณปลายเดือนธันวาคม และมักจะพบเห็นทุกสัปดาห์ คาดว่ามีประมาณ 3-4 ตัว โดยมีขนาดลำตัวยาวกว่า 2 เมตร
ด้านนายนิรุทธ์ ชมงาม ฉายามือปราบอสรพิษ ผู้เชี่ยวชาญเรื่องงูของประเทศไทย ได้นำทีมงานลงพื้นที่เดินสำรวจตามจุดต่างๆ ที่มีผู้แจ้งว่าเคยพบเห็น โดยเฉพาะบริเวณที่กระแสน้ำนิ่ง รวมทั้งริมตลิ่งที่คาดว่าจระเข้จะขึ้นมาอาบแดด เพื่อวางแผนจับ
โดย นายนิรุทธ์ กล่าวว่า จากข้อมูลที่ได้รับทราบจากผู้พบเห็นจระเข้ คาดว่าน่าจะมีมากกว่า 1 ตัว เนื่องจากโดยธรรมชาติแล้วจระเข้จะไม่ว่ายน้ำไปไกลจากจุดที่พบมากนัก แต่จากจุดที่ชาวบ้านพบมีระยะทางห่างกันมาก จึงเป็นไปได้ว่าน่าจะมีมากกว่า 1 ตัว แต่จะต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงอีกครั้ง ก่อนที่จะนำเรือร่องไปตามลำน้ำเพื่อไล่ล่าจระเข้ในวันพรุ่งนี้ ซึ่งหากจับได้ก็จะทราบว่า จระเข้ตัวดังกล่าวเป็นจระเข้เลี้ยง หรือจระเข้ตามธรรมชาติ เพราะปัจจุบันแทบจะไม่พบเห็นจระเข้ที่อาศัยอยู่ตามธรรมชาติแล้ว
อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ก็ยังคงพยายามหาวิธีในการติดตามค้นหาจระเข้ตัวนี้อย่างใกล้ชิด คาดว่ายังคงวนเวียนอยู่ในละแวกดังกล่าว ทั้งนี้ หากใครพบเห็นโทร.แจ้งอำเภอท่ามะกา ผู้นำชุมชน ประมงจังหวัด เจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่มูลนิธิ หรือ 191 ตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมแจ้งเตือนให้งดลงเล่นน้ำและหาปลาในช่วงนี้จนกว่าจะสามารถจับจระเข้ได้ หรือจนกว่าจะมั่นใจได้ว่าภายในลำคลองไม่มีจระเข้หลงเหลืออยู่แล้ว