ลพบุรี - ลพบุรีพบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 5 ราย มีเด็กชายวัย 10 ขวบใกล้ชิดผู้ติดเชื้อจากบ่อนไก่ ขณะที่ผู้ว่าฯ ลพบุรี สั่งปิดหมู่บ้าน หมู่ที่ 3 ต.บ้านเบิก อ.ท่าวุ้ง จ.ลพบุรี หลังพบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จำนวน 12 ราย ขณะที่ ยอดสะสมรวม 20 ราย
วันนี้ (10 ม.ค.) ที่ห้องประชุมพระปรางค์สามยอด ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดลพบุรี นายสุภกิณห์ แวงชิน รองผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี พร้อมด้วย นพ.วรวิทย์ สัมฤทธิ์ดี หัวหน้ากลุ่มภารกิจสื่อสารความเสี่ยง ศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดลพบุรี ได้เปิดการแถงข่าวสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ซึ่งในวันนี้มีผู้ติดเชื้อเพิ่มอีก จำนวน 5 ราย
โดยตรวจพบเป็นกลุ่มผู้ใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อคนที่ 7 ที่ติดเชื้อมาจากบ่อนไก่ใน จ.อ่างทอง ซึ่ง 1 ในผู้ติดเชื้อรายใหม่เป็นเด็กชายอายุ 10 ขวบ และผู้ที่ติดเชื้อตั้งรายที่ 7 จนถึง 20 เป็นคนหมู่บ้านเดียวกัน คือ หมู่ที่ 3 ต.บ้านเบิก อ.ท่าวุ้ง จ.ลพบุรี ซึ่งทำให้ในจังหวัดลพบุรี มีผู้ติดเชื้อสะสม จำนวน 20 ราย และรักษาหายกลับไปกักตัวที่บ้านอีก 14 วัน คือรายแรกที่เป็นสุภาพสตรี อายุ 32 ปี ที่เดินทางมาจากจังหวัดสมุทรสาคร
หลังจากที่เชื้อโควิด-19 แพร่ระบาดในเขต หมู่ที่ 3 ต.บ้านเบิก อ.ท่าวุ้ง จ.ลพบุรี ซึ่งผู้ติดเชื้อมาจากบ่อนไก่ที่ จ.อ่างทอง นำมาแพร่เชื้อ ให้แก่ผู้ใกล้ชิด ทำให้ นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี ได้สั่งการให้นายเดชวุฒิ นิลแย้ม นายอำเภอท่าวุ้ง ทำการปิดหมู่บ้านดังกล่าว โดยห้ามใครเข้าออกโดยเด็ดขาด
ทั้งนี้ ได้ให้ทางอำเภอท่าวุ้ง สาธารณสุขอำเภอท่าวุ้ง และผู้อำนวยการโรงพยาบาลท่าวุ้ง นำข้าวสาร อาหารนำไปแจกจ่ายให้แก่ชาวบ้านทุกครัวเรือนทั้ง 3 มื้อ รวมทั้งพระสงฆ์ที่วัดบ้านเบิก ได้ฉันอีกด้วย และให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุข พร้อมด้วย อสม.ทำการตรวจหาเชื้อชาวบ้านในหมู่ดังกล่าวอย่างต่อเนื่องตลอด 24 ชม.เพื่อต้องการที่จะหยุดการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ให้ได้โดยเร็วที่สุด
ขณะที่ พล.ท.สุขสรรค์ หนองบัวล่าง มทน.1 รอง ผอ.รมน.ภาค 1 พร้อมคณะได้เดินทางมาตรวจเยี่ยมจุดตรวจคัดกรองโควิด-19 ที่ถนนสายลพบุรี-สิงห์บุรี บริเวณหน้าตู้ยามแยกบาง ต.บางงา อ.ท่าวุ้ง จ.ลพบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี พล.ต.ธนสิน สุขโข ผบ.มทบ.13 ร่วมให้การต้อนรับ โดยได้เน้นย้ำการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ประจำจุดตรวจ ให้ทำการตรวจคัดกรองโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 อย่างละเอียด
โดยต้องตรวจบัตรประชาชนเพื่อป้องกันแรงงานต่างด้าวเดินทางข้ามพื้นที่ ในช่วงเวลากลางวันจะมีรถผ่านด่านจำนวนมากให้ทำการตรวจโดยเน้นที่รถโดยสารสาธารณะ ส่วนในเวลากลางคืนรถจะมีปริมาณน้อยให้ทำการตรวจทุกคัน ถ้ามีแรงงานต่างด้าวอยู่ในพื้นที่ให้ทำแผนเตรียมการเรื่องโรงพยาบาลสนามสำหรับแรงงานต่างด้าวเพื่อรองรับเหตุหากมีผู้ป่วยจำนวนมาก และป้องกันปัญหาการกระทบกระทั่งระหว่างประชาชนในพื้นที่ที่ไม่เห็นด้วยต่อการตั้งโรงพยาบาลสนามสำหรับแรงงานต่างด้าว
พร้อมทั้งกำชับในเรื่องการจัดกำลังทหารเข้าร่วมสนับสนุนการปฏิบัติงาน โดยจะต้องปฏิบัติงานตลอด 24 ชม. พร้อมทั้งขอให้เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานคำนึงถึงความปลอดภัยของตนเองจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ดโดยการสวมใส่หน้ากากตลอดเวลาตอนปฏิบัติหน้าที่ โอกาสนี้ได้มอบ ผลไม้ เจลล้างมือ หน้ากากอนามัยแก่เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติงานด้วย