สุรินทร์ - เกิดเหตุสลด คุณยายอายุ 60 ปีถูกข่มขืนฆ่าโหดขณะต้อนวัวกลับบ้านช่วงพลบค่ำ เผยก่อนพบศพมีสุนัขแสนรู้วิ่งไปตามเพื่อนบ้านมาช่วยจนพบศพเจ้าของ ด้านตำรวจเร่งสอบพยานที่พบศพ 3 ปาก พร้อมส่งหลักฐานตรวจดีเอ็นเอหาตัวคนร้ายที่ก่อเหตุ
รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2564 เวลา 18.40 น. ชาวบ้านโคกลาว ต.ไพล อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ ได้พบศพ นางสำรวย สุรศร อายุ 60 ปี บ้านเลขที่ 46 หมู่ 6 บ้านโคกลาว เสียชีวิตอยู่กลางทุ่งนา ห่างจากหมู่บ้านประมาณ 800 เมตร
จากนั้นจึงได้แจ้งให้ นายนวม ไวเร็ว ผู้ใหญ่บ้านโคกลาว และ พ.ต.ท.ทรงจักร วงศ์พรหม สารวัตรสอบสวน สถานีตำรวจภูธรทุ่งมน อ.ปราสาท เดินทางมายังที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นทุ่งนาห่างจากหมู่บ้านประมาณ 800 เมตร ในที่เกิดเหตุพบศพ นางสำรวย สุรศร อายุ 60 ปี นอนเสียชีวิตในลักษะถูกของแข็งตีเข้าที่ใบหน้า มีเลือดไหลออกบริเวณจมูก ขาซ้ายพับขึ้น มือสองข้างอยู่ในลักษณะยกขึ้นข้างศีรษะทั้งสองข้าง กางเกงถูกถอดออกและนำเอากางเกงมาปกปิดอวัยวะเพศไว้ จากนั้นได้นำศพนางสำรวย ส่งพิสูจน์หาสาเหตุการเสียชีวิตที่นิติเวช โรงพยาบาลสุรินทร์
นางอำไพ แหวนวิเศษ หลานผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ตนได้รับแจ้งจากผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านโคกลาวโทรศัพท์มาบอกว่ายายตนเองตายแล้ว ถูกฆ่าตายที่ทุ่งนาช่วงที่ต้อนวัวกลับบ้าน ด้วยความตกใจจึงพากันรีบวิ่งไปยังที่เกิดเหตุ ซึ่งช่วงนั้นเป็นเวลาประมาณ 18.00 น. เริ่มมืดแล้ว เมื่อเห็นศพยายแล้วตกใจมากเพราะถูกตีที่ใบหน้า มีเลือดไหล เลือดยังไม่แห้งคาดว่าตายได้ไม่นาน
“มือสองข้างยกขึ้น กางเกงถูกถอดออกแล้วนำมาปิดที่อวัยวะเพศไว้ ขาซ้ายพับงอ ส่วนสาเหตุการถูกฆ่ายังไม่แน่ใจว่าถูกข่มขืนหรือไม่ ต้องรอการตรวจพิสูจน์ของหมออีกที ส่วนที่มีการพบศพเป็นเพราะสุนัขของแกที่เลี้ยงไว้ 3 ตัววิ่งมาหาเพื่อนบ้านที่กำลังพากันนั่งดื่มน้ำหวานจากลูกตาล และวิ่งกลับไป 2 ตัว อีกตัวนั่งอยู่ด้วย” นางอำไพเล่า และบอกว่า
เพื่อนบ้านสงสัยในพฤติกรรมจึงพากันเดินตามสุนัข 2 ตัวไปจนพบว่ามีคนนอนตาย มีสุนัข 2 ตัวที่วิ่งกลับมาก่อนนั่งเฝ้าศพอยู่ จึงได้แจ้งให้ผู้ใหญ่บ้านทราบ จากนั้นได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางมายังที่เกิดเหตุ
ขณะที่ นายนวม ไวเร็ว ผู้ใหญ่บ้านโคกลาว กล่าวว่า ในวันที่เกิดเหตุ ชาวบ้าน 3 คนพากันไปขึ้นต้นตาลเพื่อตัดเอาลูกตาลอ่อนมาดื่มน้ำหวาน ขณะพากันนั่งดื่มน้ำหวาน สุนัข 3 ตัว มีเจ้าบัวขาว ตัวเมีย เจ้าสี่ตา ตัวผู้ และเจ้าตัวเล็ก ตัวผู้ ซึ่งเป็นสุนัขของยายสำรวย แกไปเลี้ยงวัวแกก็จะพามันไปด้วยทุกวัน เป็นสุนัขที่แกรักมันมาก แสนรู้ มันพากันวิ่งมาหาคนในหมู่บ้านที่กำลังนั่งดื่มน้ำหวานจากลูกตาล วิ่งมา 3 ตัว แต่วิ่งกลับไป 2 ตัว ยังอยู่กับชาวบ้าน 1 ตัว ชาวบ้านสงสัยว่ามันต้องมีอะไรแน่นอน เพราะสุนัข 3 ตัวนี้เคยมาขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านแล้วครั้งหนึ่งให้ไปช่วยเจ้าของมัน
“ชาวบ้านคิดว่าน่าจะเป็นน้องชายยายสำรวย เพราะบางทีไปเลี้ยงวัวแต่เมากลับบ้านไม่ได้ สุนัขก็มาตามชาวบ้านให้มาช่วยกันหามแกกลับบ้าน แต่ครั้งนี้ไม่ใช่ ชาวบ้านส่องไฟฉายไปตามสุนัข ห่างกันประมาณ 400 เมตร พบว่าสุนัขนั่งเฝ้าร่างยายสำรวย จึงได้โทรศัพท์มาแจ้งผมเดินทางไปยังที่เกิดเหตุ ในวันนี้ ตำรวจ เจ้าของคดี ได้เรียกผมพร้อมลูกบ้าน 3 คนที่พบศพชุดแรกมาสอบปากคำในฐานะพยาน”
ด้าน พ.ต.ท.ทรงจักร วงศ์พรหม สารวัตรสอบสวน สภ.ทุ่งมน อ.ปราสาท กล่าวว่า วันนี้ได้เรียกพยานที่พบศพคนแรกมาสอบปากคำในฐานะพยานในที่เกิดเหตุ สอบปากคำผู้ใหญ่บ้าน สอบปากคำน้องชายผู้ตาย และเด็กที่ไปขึ้นต้นตาลจำนวน 3 คน ขณะนี้รอส่งวัตถุพยานที่เก็บได้ในที่เกิดเหตุส่งตรวจหาดีเอ็นเอ ซึ่งต้องส่งไปตรวจที่จังหวัดนครราชสีมา ส่วนความเห็นของแพทย์ยังไม่มีผลตรวจออกมา ซึ่งได้เร่งทำงานอย่างเต็มที่
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ชาวบ้านต่างพากันอยู่อย่างหวาดผวา เพราะว่าส่วนใหญ่ที่อยู่บ้านเลี้ยงวัว ควายจะเป็นผู้หญิง พอเกิดเหตุการณ์อย่างนี้ขึ้นชาวบ้านพากันกลัวมากเพราะในหมู่บ้านไม่เคยเกิดเหตุการณ์ฆ่ากันตาย ชาวบ้านต่างเชื่อว่าเป็นการข่มขืนและฆ่าอย่างโหดเหี้ยม วิงวอนให้ตำรวจเร่งติดตามคนผิดมาลงโทษ
ทั้งนี้ ชาวบ้านต่างสงสัยว่าคนลงมือน่าจะเป็นคนใกล้ตัวยาย หรือคุ้นเคย เพราะสุนัขแสนรู้ทั้ง 3 ตัว ทำไมไม่รุมกัดคนร้ายที่ลงมือข่มขืนและฆ่ายาย