ลพบุรี - โชเฟอร์หนุ่มใหญ่ขับรถบรรทุกหมู นำกรองอากาศมาเป่าที่อู่ซ่อมรถบรรทุก เกิดถูกใจรถบรรทุกอีกคันที่กำลังซ่อม มุดหัวซุ้มล้อหลังเข้าไปดูถุงลมที่ใช้แทนโช้กรถ แต่ลมที่ถุงลมเกิดรั่ว ทำให้ซุ้มล้อที่เป็นเหล็กหล่นลงมาทับหัวติดอยู่กับล้อหลังจนเสียชีวิต
วันนี้ (2 ม.ค.) ร.ต.อ.บัญชา ชอบธรรม รองสารวัตรสอบสวน สภ.พัฒนานิคม พร้อมด้วยอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูลพบุรี ตรวจสอบที่เกิดเหตุบริเวณ อู่ต่อรถบรรทุก เลขที่ 142 หมู่ที่ 10 บริเวณซอย16 สาย 4 ขวา ต.ช่องสาริกา อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี ภายในอู่ต่อรถบรรทุก พบรถบรรทุก 10 ล้อ ยี่ห้ออีซูซุ สีฟ้า ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ซึ่งอยู่ในระหว่างต่อเติมกระบะรถไว้สำหรับบรรทุกหมูเป็นยังไม่แล้วเสร็จ
บริเวณล้อหลังดานซ้ายของรถบรรทุกพบร่างผู้เสียชีวิตเป็นชายทราบชื่อต่อมาคือ นายสุนทร จงมีธรรม อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 260/6 ม.4 ต.หนองหญ้าขาว อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา นอนหงายเสียชีวิตอยู่ในสภาพศีรษะมีบาดแผลแตกและมีเลือดไหลออกมาจากศีรษะจำนวนมาก และพบว่าที่บริเวณยางรถพบมีคราบเลือดติดอยู่
จากการสอบถามแม่บ้านผู้ที่พบศพคนแรกกล่าวว่า นายสุนทร เป็นคนขับรถ 10 ล้อบรรทุกหมูอีกคันที่จอดห่างจากอู่ประมาณ 300 เมตร และในขณะที่ตนกวาดบ้านอยู่ก็มีนายสุนทร ได้ขับรถจักรยานยนต์นำเอากรองอากาศของรถ 10 ล้อมาเป่าลมที่อู่ โดยในเวลานั้นมีตนอยู่เพียงคนเดียว และตนได้ยินเสียงนายสุนทร ใช้ลมเป่ากรองอยู่ และเสียงได้เงียบไป แต่ตนก็ไม่เห็นนายสุนทร ขับรถออกไปจากอู่ จึงได้เดินไปดูก็ต้องตกใจแทบช็อกเมื่อพบศีรษะของนายสุนทร ถูกซุ้มล้อรถที่เป็นเหล็กหล่นทับจนแน่นิ่งติดคาอยู่กับยางรถ จึงได้รีบวิ่งไปบอกเจ้าของอู่ให้มาดู เมื่อเจ้าของอู่มาพบจึงได้รีบเอารถมายกซุ้มล้อรถขึ้น แล้วนำร่างของนายสุนทร ออกมา พบว่านายสุนทร ได้เสียชีวิตไปแล้วจึงได้โทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาตรวจสอบ
สำหรับรถคันดังกล่าวเจ้าของได้มีการนำเอารถบรรทุก 12 ล้อมาดัดแปลง (เป็นรถประกอบนอก) คาดว่านายสุนทร มาเห็นทำให้อยากรู้อยากเห็นถุงลมตรงเพลาหลังจึงได้มุดหัวเข้าไปบริเวณซุ้มล้อเพื่อที่จะดูถุงลมที่อยู่ด้านใน จังหวะนั้นลมในถุงลมเกิดรั่วไหลออกจึงทำให้ซุ้มล้อรถหล่นลงมาทับหัวของนายสุนทร อัดติดกับยางรถจนทำให้เสียชีวิต
เจ้าหน้าที่จึงได้บันทึกภาพในที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน และได้มอบร่างผู้เสียชีวิตให้ทางเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูนำส่งชันสูตรเพิ่มเติมที่โรงพยาบาลพัฒนานิคม และได้ทำการสอบปากคำเจ้าของอู่และแม่บ้านผู้เห็นเหตุการณ์อย่างละเอียดอีกครั้งเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป
