ศูนย์ข่าวศรีราชา - “สาธิต” ลั่นเสนอ ศบค.ส่วนกลางล็อกดาวน์ตะวันออก หลังตัวเลขผู้ป่วยโควิด-19 หลายจังหวัดพุ่งไม่หยุด พร้อมปิดกั้นพื้นที่ช่องทางหลักทั้งเขต จ.ปราจีนบุรีเชื่อมต่อภาคอีสาน เส้นมอเตอร์เวย์และถนนบูรพาวิถี ขณะเดียวกัน ยังเดินหน้าจัดตั้ง รพ.สนามทั้งในพื้นที่ชลบุรี และจันทบุรี
วันนี้ (2 ม.ค.) ดร.สาธิต ปิตุเดชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้เดินทางมายังอาคาร ERC ค่ายพระมหาเจษฎาราชเจ้า ฐานทัพเรือสัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เพื่อรับมอบโรงพยาบาลสนามจากกองทัพเรือ สำหรับรองรับผู้ป่วยจากการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หลังเกิดการแพร่ระบาดอย่างหนักในพื้นที่ จ.ระยอง และจันทบุรี จนทำให้เกินขีดความสามารถในการรองรับผู้ป่วยของโรงพยาบาลหลัก
โดยมี พล.ร.ท.รณรงค์ สิทธินันท์ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน พล.ร.ท.เถลิงศักดิ์ ศิริสวัสดิ์ รองเสนาธิการทหารเรือ และนายแพทย์ณรงค์ อภิกุลวณิช ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 6 รวมถึงเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม
จากนั้นได้เข้าตรวจสอบความพร้อมและสภาพของอาคารโรงพยาบาลสนาม ซึ่งถูกจัดทำและปรับปรุงไว้ในอาคารรวม 4 แห่ง แบ่งเป็นอาคารสำหรับการปฏิบัติการทางแพทย์ 1 อาคาร และอาคารที่ใช้ในการรองรับผู้ติดเชื้อเฝ้าระวังอีก 3 อาคาร โดยมีขีดความสามารถในการรองรับผู้ป่วยได้จำนวน 120 คน
ดร.สาธิต เผยว่า การจัดตั้งโรงพยาบาลสนามของกองทัพเรือในครั้งนี้ เพื่อใช้สำหรับรองรับผู้ป่วยกรณีที่โรงพยาบาลหลักของกระทรวงสาธารณสุขในพื้นที่ จ.ชลบุรี จ.ระยอง และจันทบุรี มีจำนวนผู้ป่วยเฝ้าระวังเกินจำนวนขีดความสามารถที่จะดูแลได้ ซึ่งฐานทัพเรือสัตหีบ มีความพร้อมทั้งเรื่องสถานที่และบุคลากรในการจัดหาที่เฝ้าระวังและกักตัวผู้ป่วย โดยที่ผ่านมา พบว่าประสบความสำเร็จจากการรองรับผู้ติดเชื้อจากเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน ซึ่งกองทัพเรือสามารถจัดพื้นที่เฝ้าระวังและกำลังบุคลากรในการดูแลได้อย่างดีเยี่ยม
อีกทั้งพื้นที่โรงพยาบาลสนามแห่งนี้ยังห่างไกลจากชุมชน และจะไม่ส่งผลกระทบต่อความรู้สึกและความกังวลต่อการติดเชื้อ โดยอาคารโรงพยาบาลสนามแห่งนี้จะใช้สำหรับรองรับผู้ป่วยที่ผ่านการรักษาและสังเกตอาการจากโรงพยาบาลจนมีอาการไม่รุนแรง ซึ่งจะทยอยนำตัวผู้ป่วยเข้าพักรักษาและติดตามอาการ จนกว่าผลการตรวจจะเป็นลบหรือไม่พบเชื้อจึงจะปล่อยให้กลับบ้านได้
แต่หากพบว่ามีอาการหนักขึ้น จะจัดเจ้าหน้าที่ชุดเฝ้าระวังเพื่อนำตัวส่งกลับไปรักษาที่โรงพยาบาลหลักในทันที
ที่จันทบุรีจะมีการใช้พื้นที่ ทร.จัดตั้งโรงพยาบาลสนามด้วยเช่นกัน
ขณะที่สถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ระลอกใหม่ถือว่ามีความรุนแรงมากกว่าที่ผ่านมา โดยเฉพาะในพื้นที่ จ.ระยอง ที่มีผู้ติดเชื้อขยายเป็นวงกว้าง ซึ่งนอกจากจะมีการจัดตั้งโรงพยาบาลสนามในเขตฐานทัพเรือสัตหีบแล้ว ยังมีการจัดเตรียมแผนสำรองในการจัดตั้งโรงพยาบาลสนามเพิ่มในพื้นที่ของ จ.จันทบุรี โดยใช้พื้นที่ในเขตกองทัพเรือด้วยเช่นกัน
“ปัญหาสำคัญของการแพร่ระบาดเกิดจากขั้นตอนการติดตามผู้สัมผัสใกล้ชิด ผู้ป่วยและผู้ที่มีความสุ่มเสี่ยงไม่สามารถดำเนินการได้ครบ 100% เนื่องจากผู้ป่วยบางส่วนไม่ยินยอมมารายงานตัว หรือเข้ารับการกักตัวและเข้ารับการรักษาแม้จะทราบผลแล้วว่ามีการติดเชื้อ แต่กลับไม่ให้ความร่วมมือ อีกทั้งยังหลบเลี่ยงหนีหายไปซึ่งอาจไปทำให้มีการติดเชื้อเพิ่มได้จึงถือเป็นเรื่องที่น่าวิตก กรณีนี้ได้ให้อำนาจผู้ว่าราชการจังหวัดในพื้นที่ติดตามตัวมาสอบสวนโรค และหากยังไม่มารายงานตัวหรือฝ่าฝืนคำสั่งให้ดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด”
เตรียมล็อกดาวน์พื้นที่ภาคตะวันออก
ดร.สาธิต ยังเผยอีกว่า จากการประชุมของกระทรวงสาธารณสุข มีแผนที่จะเสนอให้ล็อกดาวน์พื้นที่ภาคตะวันออก ซึ่งจะดำเนินการในระยะเวลา 28 วัน ทั้งนี้ จะมีการปิดกั้นพื้นที่ช่องทางหลักที่มุ่งสู่ภาคตะวันออก ได้แก่ เขตจังหวัดปราจีนบุรี ที่เชื่อมต่อกับภาคอีสาน ทางเข้าชลบุรี ทั้งเส้นมอเตอร์เวย์ และถนนบูรพาวิถี โดยจะทำการตั้งด่านสกัดตรวจสอบเข้มทุกเส้นทางห้ามคนในออก-คนนอกเข้า นอกจากจะมีความจำเป็นเร่งด่วน ซึ่งแผนงานนี้จะเร่งนำเสนอ ศบค.ส่วนกลาง เพื่อขอรับความเห็นชอบภายในวันนี้