ฉะเชิงเทรา - อ่างเก็บน้ำสียัดยังอาถรรพ์ไม่เลิก ล่าสุด ยังมีรถยนต์ถูกระแสน้ำที่เอ่อท่วมเส้นทางสัญจรพัดตกอ่าง ทำผู้โดยสาร 3 รายจมหายพร้อมรถ เบื้องต้น พบร่างแล้ว 2 ราย ส่วนเด็กหญิงวัย 5 ปี ที่ติดอยู่ภายในรถยังหาไม่เจอ ส่วนนักท่องเที่ยวกรุงเทพฯ จมหายพร้อมเรือก็ยังหาไม่พบอีก 1 ราย
จากเหตุการณ์เรือล่มกลางอ่างเก็บน้ำสียัด บริเวณหมู่บ้านท่าคาน จ.ฉะเชิงเทรา เมื่อเวลา 15.30 น.วันที่ 30 ธ.ค.ที่ผ่านมา จนทำให้มีผู้สูญหาย 3 ราย คือ นางรัชดา ปิดตาทะเน อายุ 49 ปี นายตั้ง ฮวดไช้ อายุ 65 ปี และนายเทิดศักดิ์ ปราบภัย อายุ 52 ปี ซึ่งผู้เห็นเหตุการณ์บอกว่าเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวกรุงเทพฯ ที่พากันลงเรือรับจ้างข้ามไปเกาะกลางอ่าง แต่กระแสลมแรงทำคลื่นซัดตัวเรือจม แต่ยังโชคดีที่มีผู้รอดชีวิตถึง 9 ราย และขณะนี้ยังหาร่างผู้สูญหายอีกรายไม่พบ
โดยชาวเมืองแปดริ้วพากันเชื่อว่าเป็นอาถรรพ์ของอ่างเก็บน้ำดังกล่าว เพราะในห้วงเวลา 12 ปีที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุเรือล่มจนทำให้มีผู้เสียชีวิตภายในอ่างเก็บน้ำดังกล่าวแล้วถึง 3 ครั้ง และมีผู้เสียชีวิตรวม 12 รายนั้น
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เหตุการณ์เศร้าอ่างเก็บน้ำเขื่อนสียัดยังไม่จบเพียงเท่านั้น เพราะเมื่อเวลา 15.30 น.วานนี้ (31 ธ.ค.) ยังเกิดรถยนต์เก๋งยี่ห้อซูซูกิ รุ่นสวิฟท์ สีดำ ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน ที่พยายามขับฝ่ากระแสน้ำท่วมถนนสาย 3259 ซึ่งอยู่ใกล้กับสะพานข้ามคลองสียัดเก่า ซึ่งในอดีตเมื่อกว่า 20 ปีก่อนชาวบ้านมักใช้เส้นทางดังกล่าวเป็นเส้นทางเชื่อมจากหมู่บ้านเกาะกระทิง ม.13 ไปยังหมู่บ้านเขากระดาษ ม.19 ต.คลองตะเกรา อ.ท่าตะเกียบ
ภายหลังเมื่อถูกเวนคืนมาใช้เป็นพื้นที่ก่อสร้างเป็นอ่างเก็บน้ำ จึงเป็นเส้นทางที่มีน้ำเอ่อเข้าท่วมเป็นประจำ ซึ่งสภาพถนนบริเวณดังกล่าวมีสภาพเป็นหลุมหรือบ่อ และมักมีน้ำเอ่อท่วมประมาณ 30 เซนติเมตรอยู่เป็นประจำนอกจากนั้น ในบางจุดยังมีน้ำท่วมสูงประมาณ 1 เมตร
โดยรถยนต์คันเกิดเหตุได้ที่ถูกกระแสน้ำที่เอ่อจากอ่างเข้าท่วมถนนตกน้ำทั้งคัน ส่งผลให้ผู้โดยสารภายในรถรวม 3 ราย ประกอบด้วย ด.ญ.วิมลสิริ ตะพรม วัย 5 ขวบ น.ส.ปนิดา ตะพรม อายุ 26 ปี ซึ่งเป็นคนขับ และ ด.ญ.จิรัชยา คำมุข อายุ 6 ขวบ ถูกน้ำพัดหายไปพร้อมกับตัวรถ
หลังเกิดเหตุ พ.ต.ท.สุรพิสิฐ ไหมงำ สารวัตรเวรสอบสวน สภ.ท่าตะเกียบ ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ลงตรวจสอบจุดเกิดเหตุซึ่งอยู่บนถนนสาย 3259 เดิม ใกล้สะพานข้ามคลองสียัดเก่า ก่อนประสานขอกำลังหน่วยกู้ภัยร่วมค้นหา เนื่องจากบริเวณจุดเกิดเหตุมีกระแสลมแรง และมีคลื่นผิวน้ำซัดออกจากอ่างเก็บน้ำอยู่ตลอดเวลา
เบื้องต้น พบว่าชาวบ้านที่ออกเรือหาปลาบริเวณดังกล่าวสามารถช่วยเหลือหญิงสาวที่ถูกน้ำพัดได้ 2 ราย แต่ยังอยู่ในอาการหมดสติและถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลท่าตะเกียบ แต่สุดท้ายทราบว่าเสียชีวิตในเวลาต่อมา
นอกจากนั้น ยังพบผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว จำนวน 2 ราย คือ น.ส.วัลย์นภา ตะพรม อายุ 17 ปี และ น.ส.วิมลรัตน์ ตะพรม อายุ 15 ปี กล่าวว่าทั้งคู่สามารถหนีออกจากรถได้ทันก่อนที่จะถูกกระแสน้ำพัดหายไป ส่วนผู้ที่มาด้วยกัน 3 รายหนีไม่ทัน และติดอยู่ภายในรถ
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่อาสาสมัครหน่วยกู้ภัยพนมสารคาม และอาสาสมัครหน่วยกู้ภัยฉะเชิงเทรา ได้แบ่งกำลังจากการค้นหาร่างผู้สูญหายจากเหตุเรือล่มเมื่อวันที่ 30 ธ.ค.ที่ผ่านมาที่ยังหาไม่พบอีก 1 ราย ออกมาช่วยค้นหาผู้สูญหายจากเหตุกระแสน้ำพลัดรถตกอ่างเก็บน้ำ พร้อมนำเรือท้องแบนและทีมนักประดาน้ำออกมาช่วยค้นหารถยนต์เก๋งที่สูญหายพร้อมเด็กหญิงวัย 5 ขวบ แต่ยังไม่พบ
รอง ผวจ.ฉะเชิงเทรา สั่งล้อมคอกจุดเกิดเหตุแล้วจี้ยกเลิกใช้เส้นทาง
ขณะที่ นายสรายุทธ แก้วกุลปรีชา รองผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา ซึ่งเดินทางลงพื้นที่ดูจุดเกิดเหตุ เผยว่า ในวันนี้จะได้เรียกประชุมคณะกรรมการศูนย์ป้องกันอุบัติภัยทางถนนระดับอำเภอ เพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ขึ้นซ้ำซากอีก และพื้นที่บิรเวณดังกล่าวไม่ควรใช้ในการสัญจรอีกต่อไป