เลย-ตำรวจเตรียมยื่นขอถอนประกันภารโรงหื่นลวนลามนักเรียนหญิงชั้น ป.5 รร.ชมน้อย อ.เชียงกลม หลังศาลให้ประกันตัวออกไปแล้วข่มขู่ครอบครัวของเหยื่อ ซ้ำญาติๆของผู้ต้องหายังใส่ร้ายแม่ของเด็กว่ารู้เห็นเป็นใจให้ลูกสาวหาเงิน จนต้องเข้าร้องขอความช่วยเหลือจากผู้ว่าฯเลย
จากกรณีที่เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2563 ที่ผ่านมา นางเดือน(นามสมมุติ) นำ ด.ญ.ดาว(นามสมมุติ) อายุ 11 ปี เรียนอยู่ชั้น ป.5 พร้อมด้วยญาติ เข้าร้องเรียนศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดเลย หลังถูกภารโรงโรงเรียน ชมน้อย อ.ปากชม อายุ 53 ปี ได้ลวนลาม ล่วงละเมิดทางเพศ และยังถูกข่มขู่เอาชีวิต อีกทั้งยังพบว่า มีเด็กนักเรียนหญิงอีก 5-6 คนถูกกระทำเช่นเดียวกัน
โดยผู้ว่าราชการจังหวัดเลยได้สั่งการให้ สภ.เชียงกลม เจ้าของพื้นที่เข้าตรวจสอบ พร้อมเร่งรัดดำเนินคดีให้ถึงที่สุดนั้น
ความคืบหน้าล่าสุด วันนี้( 31 ธ.ค.) พ.ต.อ.วรเชษฐ์ จันทร์มา ผู้กำกับการ สภ.เชียงกลม เปิดเผยโดยไม่อนุญาตให้ถ่ายภาพบันทึกขณะสัมภาษณ์ว่า คดีนี้ ผู้เสียหายได้มาแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนเมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2563 หลังจากนั้นพนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐาน จนกระทั่งวันที่ 22 ธันวาคม 2563 ได้ส่งฝากขังผู้ต้องหาและได้คัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเป็นคดีที่มีอัตราโทษสูง และเกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนี ต่อมาศาลได้สั่งให้ปล่อยตัวตามคำร้อง ซึ่งเป็นไปตามกระบวนการปกติตามดุลยพินิจของศาล
ในส่วนของพนักงานสอบสวน สภ.เชียงกลม ขณะนี้ได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง เหลือเพียงรอผลการตรวจสอบประวัติอาชญากรของผู้ต้องหา หากรวบรวมเสร็จสิ้นแล้ว ก็จะยื่นต่อพนักงานอัยการต่อไป
อย่างไรก็ตาม กรณีที่ผู้เสียหายได้ไปร้องเรียนต่อผู้ว่าราชการจังหวัดว่าถูกผู้ต้องหาข่มขู่นั้น ในวันนี้เวลาช่วงเย็น พนักงานสอบสวนจะเรียกผู้เสียหายมาสอบปากคำอีกครั้งหนึ่ง หากพบว่ามีผู้ต้องหามีพฤติการณ์ข่มขู่จริงก็จะยื่นขอถอนประกันตัว และจะแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมอีก และนอกจากนี้ ยังทราบจากเด็กผู้เสียหายอีกว่า มีนักเรียนหญิงในโรงเรียนเดียวกันอีก 5-6 คน ถูกกระทำล่วงละเมิดทางเพศจากภารโรงรายนี้อีกด้วย
นางสาวสุกัญญา ปุริเส แม่ของเด็กผู้เสียหายเล่าว่า เหตุเกิดตั้งแต่วันที่ 16 ต.ค. 63 สังเกตุเห็นลูกสาว เซื่อมซึม ไม่ค่อยร่าเริงเหมือนเดิม และมีเงินใช้ผิดปกติและได้แอบไปฝากไว้กับพี่สาวข้างบ้าน และในวันที่ 21 ตุลาคม ทราบว่าได้เงินมาอีก จึงได้ซักถามว่าเอาเงินมาจากไหน ลูกสาวก็บอกว่าภารโรงในโรงเรียนเอาเงินให้ใช้ และได้ซักต่อว่าเขาให้มาทำไม ทำไม่ต้องให้เงินตั้ง 340 บาทในครั้งแรก และครั้งที่ 2 อีก 300 บาท ซักลูกสาวอยู่นาน ตอนแรกไม่ยอมบอก มีแต่ร้องไห้ จนลูกสาวยอมบอกว่า ภารโรงเรียกไปห้องพยาบาล และไปจับหน้าอกและข้างล่างด้วย จากนั้นใช้มือแย่เข้าในอวัยวะเพศและใช้ปากสัมผัส
ตนเองไม่แน่ใจกลัวลูกโกหกจึงได้นำลูกสาวไปตรวจที่โรงพยาบาล พบว่ามีการล่วงล้ำอวัยวะทางเพศ แต่ยังไม่ถึงขั้นข่มขืน ลูกสาวบอกอีกว่า ภารโรงคนนี้ได้ข่มขู่ห้ามบอกผู้ปกครอง ไม่อย่างนั้นจะฆ่าแม่และลูกสาวให้ตาย
แม่รายนี้เล่าอีกว่าทุกวันนี้อยู่กันเพียง 2 คน พ่อของเด็กได้เลิกรากันไปแล้วกว่า 3 ปี หลังจากเกิดเหตุตนและญาติได้ไปแจ้งความกับตำรวจ สภ.เชียงกลม ตำรวจได้จับดำเนินคดี ในข้อหากระทำชำเรา ต่อมาได้รับการประกันตัวออกมา และภารโรงมีบ้านอยู่ติดกัน อายุ 52 ปีแล้ว ก็ได้มาข่มขู่ ทั้งวาจา และทางเฟซบุ๊ก ต่อว่าต่างๆนาๆ
รวมถึงญาติๆของเขา ว่าเราใส่ร้ายให้ลูกสาวไปหาเงิน ตนได้รับความอับอายและกลัวมาก จึงเข้าร้องเรียนต่อผู้ว่าราชการจังหวัด
ด้านเด็กนักเรียนหญิงเล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังทั้งน้ำตาว่า หนูถูกกระทำ 2 ครั้ง ครั้งแรกเขาให้เงิน 340 และครั้งที่ 2 เขาให้มา 300 บาท ครั้งแรกหนูไปถึงโรงเรียนตอนเช้า เจอกับภารโรงซึ่งก็รู้จักกันดี และเขาบอกว่าจะเอาเงินให้ แต่ห้ามไปบอกใคร เขาได้สัมผัสหน้าอกและด้านล่าง และหนูก็บอกว่าไม่เอาเงินแล้ว เขาก็บอกว่าถ้าไม่เอาเขาจะไปฆ่าแม่ หนูกลัวมาก และต่อมาเขาก็มาทำ ห่างจากครั้งแรกหลายวัน ในครั้งที่ 2 เขาเอาลิ้นมาสัมผัสด้านล่าง แล้วก็เอาเงินให้อีก
หลังจากนั้นได้ย้ำแล้วย้ำอีกว่าห้ามไปบอกใคร ถ้าตำรวจรู้ หรือครูและแม่ จะไปฆ่าให้หมด และทราบว่าเพื่อนๆที่อยู่โรงเรียนเดียวกันก็ถูกกระทำเหมือนกัน ประมาณ 5-6 คน และเป็นที่ทราบภายในโรงเรียน