ประจวบคีรีขันธ์ - การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ระงับการจองและเอารายชื่อโรงแรมแห่งหนึ่งที่พบพิรุธการจองใช้สิทธิโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” ออกจากระบบ ยอมรับมีความผิดปกติชัดเจนเพราะโรงแรมมีห้องพักเพียงกว่า 40 ห้อง แต่เปิดให้จองห้องพักวันละ200-300 สิทธิ
จากกรณีที่สังคมออนไลน์จับพิรุธโรงแรมแห่งหนึ่งในหัวหิน ใช้สิทธิเราเที่ยวด้วยกัน ราคาห้องเหลือ 300-400 บาท/คืน คนจองวันนี้วันเดียวกว่า 6 พันครั้ง ทั้งที่ความสามารถในการรองรับไม่น่าจะรองรับได้ ขณะเดียวกัน มีการแชร์ภาพบริเวณหน้าโรงแรม พบแขกส่วนใหญ่มาเช็กอินตัวเปล่าไร้กระเป๋า
ซึ่งมีนักท่องเที่ยวรายหนึ่งโทร.ไปสอบถามว่า หากจองแล้วไม่ได้ไปเข้าพัก แต่ไปเช็กอินเพื่อเอาคูปอง 600/900 อย่างเดียว การกระทำดังกล่าวจะเข้าข่ายความผิดตามที่ ททท.กำลังตรวจสอบหรือไม่ ทางโรงแรมได้ชี้แจงว่า เป็นสิทธิของลูกค้า ผิดตรงไหน ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่าการกระทำลักษณะดังกล่าวเข้าข่ายทุจริตหรือไม่ และเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปตรวจสอบ
ความคืบหน้าล่าสุด วันนี้ (29 ธ.ค.) ที่ห้องประชุมสถานีตำรวจท่องเที่ยว 2 กองกำกับการ 1 กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว 3 อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ พร้อมด้วยหลายหน่วยงาน ประกอบด้วย น.ส.โศรยา หอมชื่น ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยสำนักงานประจวบคีรีขันธ์ พ.ต.อ.รัฐพงศ์ แก้วยอด ผู้กำกับการ กองกำกับการควบคุมธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว นายมนตรี มานิชพงษ์ ปลัดอำเภอหัวหิน นางวาสนา ศรีกาญจนา นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวหัวหิน/ชะอำ ตำรวจภูธรหัวหิน ตัวแทนจากธนาคารกรุงไทย เจ้าหน้าที่สำนักงานเศรษฐกิจและการคลัง ได้ร่วมประชุมหารือเพื่อทำการตรวจสอบและวางแนวทางดำเนินการกับโรงแรมเจ้าปัญหาที่พบพิรุธ โดยไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าร่วมรับฟัง โดยการประชุมครั้งนี้ใช้เวลานานกว่า 2 ชั่วโมง
น.ส.โศรยา หอมชื่น ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยสำนักงานประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า ในเรื่องนี้อยู่ระหว่างการสืบสวนหาหลักฐานของทางตำรวจ ในส่วนของ ททท.ขณะนี้ได้ระงับการจองของโรงแรมของโรงแรมดังกล่าวแล้ว โดยจะไม่สามารถเข้าไปจองในระบบได้ รวมทั้งมีการเอาชื่อโรงแรมที่พบพิรุธออกจากรายชื่อโรงแรมที่เข้าร่วมโครงการเราเที่ยวด้วยกัน ในส่วนของผู้ที่กดจองให้สิทธิกับโรงแรมนี้จะไม่สามารถจ่ายเงินได้ ซึ่งโครงการนี้จะต้องจ่ายเงินผ่านแอปเป๋าตังค์เท่านั้น
รวมทั้งโรงแรมจะไม่ได้รับเงินสนับสนุนจากรัฐด้วย จากการตรวจสอบข้อมูลพบความผิดปกติมาตั้งแต่โครงการเราเที่ยวด้วยกัน ระยะแรก หน่วยงานที่เกี่ยวข้องอยู่ระหว่างติดตามข้อมูล แต่พอมาถึงโครงการระยะที่ 2 ก็เห็นความผิดปกติชัดเจน โดยวันนี้ทางธนาคารกรุงไทยได้แจ้งว่า ได้ดำเนินการปิดระบบการจ่ายเงินแล้ว
ทั้งนี้ หากพบว่ามีหลักฐานการทุจริตที่ชัดเจนแล้ว ททท.ในฐานะเจ้าของโครงการ ร่วมกับสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง จะเป็นผู้แจ้งความเอาผิด และยอมรับว่ากรณีที่เกิดขึ้นนี้ส่งผลต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของเมืองหัวหิน
ด้าน พ.ต.อ.รัฐพงศ์ แก้วยอด ผู้กำกับการ กองกำกับการควบคุมธุรกิจนำเที่ยวและ มัคคุเทศก์ กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว กล่าวว่า ในเรื่องนี้ต้องรวบรวมพยานหลักฐานให้ชัดเจน เพราะมองได้หลายมุม บางทีประชาชนบางส่วนก็อาจจะจองโรงแรมเพราะต้องการไปเที่ยวและใช้สิทธิจริงๆ แต่บางคนก็อาศัยช่องโหว่ของระบบมาหาประโยชน์ส่วนตัว ต้องรวบรวมพยานหลักฐานการกระทำผิดให้ชัดเจนว่าทำผิดอะไร
ภาพที่เห็นจากกล้องวงจรปิดก็เป็นหลักฐานส่วนหนึ่ง แต่ถ้าคิดกันง่ายๆ โรงแรมนี้มีห้องพักแค่ 45 ห้อง แต่มีคนมาใช้สิทธิ หรือเช็กอินวันละ 200-300 คน ก็เป็นไปไม่ได้ มีความผิดปกติที่ระบบมันจะฟ้องชัดเจนอยู่แล้ว ตอนนี้ต้องดูข้อมูลย้อนหลังรายงานการเข้าพักของลูกค้าที่ส่วนนี้จะต้องรายงานฝ่ายปกครองในพื้นที่ จะต้องนำข้อมูลมาวิเคราะห์กัน เพราะเกิดขึ้นในหลายพื้นที่