ตาก - คนงานก่อสร้างหนุ่มใหญ่ชาวเมียนมาหิ้วปิ่นโตขี่จักรยานคู่ใจรีบกลับไปกินข้าวเที่ยงกับภรรยา ถึงแยกไฟแดงถนนชายแดนแม่สอด ห่างจากบ้านพักไม่ถึง 500 เมตร จยย.เฉี่ยวชนรถล้มถูกรถบรรทุกตามหลังทับหัวสมองกระจายดับคาที่
วันนี้ (18 ธ.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่สอด จังหวัดตาก รับแจ้งจากสายด่วนฉุกเฉินว่ามีอุบัติเหตุรถบรรทุกสิบล้อทับคนขี่จักรยานเสียชีวิต ที่บริเวณสี่แยกไฟแดงโรบินสันแม่สอด ถนนสายแม่สอด-ตาก ช่วงหลักกิโลเมตรที่ 8 เขตเทศบาลนครแม่สอด เมื่อเที่ยงเศษที่ผ่านมา จึงพร้อมฝ่ายปกครองอำเภอแม่สอดและหน่วยกู้ชีพมูลนิธิตากร่วมใจสงเคราะห์เขตนครแม่สอด เดินทางไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุเป็นสี่แยกไฟแดง ถนนสายหลักมุ่งหน้าชายแดนไทย-เมียนมา กลางสี่แยกพบรถยนต์บรรทุกยี่ห้ออีซูซุ หมายเลขทะเบียน 70-3049 สุโขทัย จอดอยู่ ขณะที่นายสุพจน์ ลักศรี อายุ 48 ปี คนขับรถบรรทุกคันเกิดเหตุไม่ได้รับบาดเจ็บ รอให้การต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยอาการตกใจ
บริเวณล้อหลังรถบรรทุกสิบล้อพบจักรยานสีน้ำตาล ล้มไปกองกับพื้นถนน ข้างรถพบปิ่นโตกับข้าวตกแตกกระจายและพบศพนายอ่องจ่อเท ไม่มีนามสกุล อายุ 52 ปี คนงานก่อสร้างชาวเมียนมา เสียชีวิตทันทีในที่เกิดเหตุ สภาพนอนคว่ำหน้าขายังคร่อมจักรยาน ส่วนศีรษะถูกล้อรถสิบล้อทับจนมันสมองแตกกระจายเต็มถนนจนจำใบหน้าเดิมไม่ได้
ขณะเดียวกัน ระหว่างที่ตำรวจและหน่วยกู้ชีพกำลังยกร่างผู้เสียชีวิต นางสาวมีมีเอ อายุ 27 ปี ภรรยาผู้เสียชีวิตที่ทราบข่าวร้ายวิ่งมาดูที่เกิดเหตุพบศพสามีก็ถึงกับร้องไห้เสียใจสุดชีวิตจนเกือบจะเป็นลมกลางสี่แยกไฟแดง เจ้าหน้าที่ต้องรีบนำตัวไปช่วยดูแลปรับสภาพจิตใจในที่ร่มจนอาการดีขึ้น ก่อนที่หน่วยกู้ชีพมูลนิธิตากร่วมใจสงเคราะห์เขตแม่สอดจะนำศพผู้เสียชีวิตส่งตรวจที่โรงพยาบาลแม่สอด
จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า นายอ่องจ่อเท ผู้เสียชีวิตทำงานเป็นช่างก่อสร้างในเขตอำเภอแม่สอด จนช่วงเวลาพักเที่ยงได้ขี่จักรยานนำปิ่นโตอาหารคาวหวานออกจากที่ทำงานมุ่งหน้าจะกลับบ้านพักซึ่งอยู่ใกล้กับที่ทำงานเพื่อจะไปกินข้าวมื้อเที่ยงกับภรรยาที่รออยู่ มาถึงสี่แยกก็จอดติดสัญญาณไฟแดง จังหวะไฟเขียวผู้ตายขับรถจักรยานกำลังจะออกสี่แยก แต่รถเกิดเกี่ยวกับจักรยานยนต์ไม่ทราบหมายเลขทะเบียนที่ขับหลบหนีไป ทำให้จักรยานเสียหลักล้มและเป็นจังหวะเดียวกันที่รถบรรทุกที่ขับตามหลังมาหักรถหลบไม่ทัน ล้อรถบรรทุกได้ทับศีรษะนายอ่องจ่อเทเสียชีวิตทันทีท่ามกลางสายตาผู้คนจำนวนมาก
ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างหาภาพวงจรปิดใกล้เคียงในจุดเกิดเหตุเพื่อทำการสอบสวนหาสาเหตุของอุบัติเหตุในครั้งนี้อย่างละเอียดอีกครั้ง