สระบุรี - ไฟไหม้ตู้เอทีเอ็มธนาคารกรุงไทย สาขาเมืองสระบุรี เสียหาย 4 ตู้ เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานลงตรวจสอบ พร้อมผู้บริหารธนาคาร ล่าสุด ยังไม่ทราบสาเหตุ
วันนี้ (13 ธ.ค.) เวลา 01.30 น. พ.ต.ท.ณัฎ ผดุงรัตน์ สารวัตรสอบสวน สภ.เมืองสระบุรี ได้รับแจ้งว่ามีเหตุเพลิงไม้ตู้เอทีเอ็ม ของธนาคารกรุงไทย สาขาเมืองสระบุรี ต.ปากเพรียว อ.เมือง จ.สระบุรี ซึ่งอยู่หลังห้างโลตัสสระบุรี จึงได้รีบแจ้งไปยังหน่วยงานบรรเทาสาธารณภัย เทศบาลเมืองสระบุรี พร้อมรุดไปยังที่เกิดเหตุ เมื่อไปถึงพบเพลิงกำลังลุกไหม้ ตู้เอทีเอ็มของธนาคารดังกล่าว ซึ่งตั้งอยู่บริเวณหน้าธนาคารเชิงบันไดทางขึ้นของธนาคาร ติดกับศาลาจอดรถริมถนนสุดบรรทัด เจ้าหน้าที่ดับเพลิงใช้เวลาร่วม 15 นาที เพลิงจึงสงบ
จากตรวจสอบพบว่า มีตู้เอทีเอ็มของธนาคารเสียหาย จำนวน 4 ตู้ ส่วนสาเหตุยังไม่ทราบ จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้กันพื้นที่เพื่อรอกองพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบการเกิดเหตุในครั้งนี้
ต่อมา เวลา 09.20 น. พ.ต.อ.หญิง เสาวภา พลานนท์ ผกก.พิสูจน์หลักฐานตำรวจภูธร จ.สระบุรี พร้อมด้วย พ.ต.ท.ภัฏ ผดุงรัตน์ สว.(สอบสวน) สภ.เมืองสระบุรี นายโอภาส เรืองสวัสดิ์ ผู้จัดการธนาคารกรุงไทย สาขาสระบุรี และเจ้าหน้าที่ของธนาคารกรุงไทย สำนักงานใหญ่ เข้าร่วมตรวจที่เกิดเหตุบริเวณจุดที่เกิดเพลิงไหม้เพื่อเก็บรวบรวมหลักฐานต่างๆ นำไปหาสาเหตุการการเพลิงไหม้ในครั้งนี้ ซึ่งพบว่าตู้เอทีเอ็ม ตู้รับฝากเงิน รวมจำนวน 4 ตู้ได้รับความเสียหายถูกไฟไหม้
ผู้สื่อข่าวรายงานงานว่า ภายหลังเจ้าหน้าที่ และฝ่ายผู้บริหารธนาคารกรุงไทยร่วมกันตรวจที่เกิดเหตุแล้ว ผู้บริหารไม่ได้ให้รายละเอียดใดๆ ที่เกิดขึ้นกับผู้สื่อข่าวแต่อย่างใด บอกเพียงว่า ไม่มีอำนาจให้ข่าวได้ขอให้ไปสอบถามกับผู้บริหารระดับสูงที่สำนักงานใหญ่เท่านั้น
ด้าน พ.ต.ท.ภัฏ ผดุงรัตน์ สว.(สอบสวน) สภ.เมืองสระบุรี เปิดเผยว่า จากการตรวจที่เกิดเหตุ ตรวจสอบกล้องวงจรปิด และพยานแวดล้อมต่างๆ แล้ว ไม่พบคนร้ายหรือการกระทำใดๆ กับตู้เอทีเอ็ม พบเพียงมีกลุ่มควันออกมาจากด้านข้างตู้ “รับฝากเงิน” ตู้ที่ 4 ก่อน หลังจากนั้นจึงเกิดเปลวเพลิงลุกไหม้ตามมาขณะนี้ทราบจากเจ้าหน้าที่ธนาคารว่า จากการตรวจที่เกิดเหตุด้านนอกแล้วทรัพย์สิน (เงิน) ในตู้เอทีเอ็มไม่ได้รับความเสียหายแต่อย่างใด ส่วนรายละเอียดอื่นๆ คือจำนวนเงินที่อยู่ภายในตู้เอทีเอ็มขณะเกิดเหตุมีมากน้อยเพียงใดนั้นจะต้องรอให้สอบสวนผู้เกี่ยวข้องและผู้รับผิดชอบแต่ละฝ่ายอีกครั้งหนึ่ง สำหรับสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้ที่แท้จริงนั้นพิสูจน์หลักฐานจะชี้แจงให้ทราบต่อไป