นครพนม - เครือข่ายผู้พิการทางสายตา จ.นครพนม ทำกิจกรรมจิตอาสาให้บริการนวดฟรี ทำดีด้วยใจ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่ “ในหลวง ร.๙” เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ และวันพ่อแห่งชาติ ขณะผู้มาใช้บริการชื่นชม ช่วยเหลือตัวเองได้ ไม่เป็นภาระสังคม
วันนี้ (5 ธ.ค.) ที่บริเวณร้านหมอนนท์นวดเพื่อสุขภาพ บ้านภูกระแต หมู่ที่ 12 ตำบลนาคำ อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม นายนนทา อุทำกา เจ้าของร้านนวดเพื่อสุขภาพ พร้อมด้วยจิตอาสา ผู้พิการทางสายตา เครือข่ายผู้พิการทางสายตาจากหลายอำเภอของ จ.นครพนม จำนวนกว่า 10 คน ร่วมกันทำกิจกรรมโครงการจิตอาสา บริการนวดฟรี เราทำดีด้วยใจ ถวายพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ 5 ธันวาคม 2563 มีประชาชนใช้บริการเป็นจำนวนมาก
นายนนทา อุทำกา หมอนวดผู้พิการทางสายตา กล่าวว่า ที่มาเปิดให้บริการในครั้งนี้ส่วนใหญ่หมอนวดไม่ใช่ผู้พิการทางสายตามาโดยกำเนิด พิการเกิดจากเพราะอุบัติเหตุ เจ็บป่วย เป็นต้น ซึ่งหมอนวดที่มาให้บริการแต่ละคนผ่านการอบรมหลักสูตรหมอนวดตาบอด เพื่อการทดสอบใบประกอบโรคศิลปะการแพทย์แผนไทย ประเภทการนวดไทย และเรียนจบหลักสูตรผู้ช่วยแพทย์แผนไทยมาแล้ว บางคนเป็นวิทยากรสอนนวดในระดับอาจารย์ ไปให้ความรู้ตามจังหวัดต่างๆ มานานหลายสิบปี
โดยการนวดวันนี้ให้บริการนวดตัว คอ บ่า ไหล่ นวดฝาเท้า นวดบรรเทาอาการปวดเมื่อย ตะคริว เป็นอัมพฤกษ์อัมพาตสามารถทำบำบัด ให้บรรเทาได้ โดยจะเปิดให้บริการ 1 วัน ตั้งแต่เวลา 09.00 น. ถึง 17.00 น.
ด้านนายวิทยาลัย ท่อนทอง หมอนวด วัย 43 ปี ผู้พิการทางสายตา กล่าวว่า ตนพิการทางสายตามาได้ประมาณ 30 ปี เกิดจากประสบอุบัติเหตุไม้แทงตา หลังจากที่เคยมองเห็นแล้วกับมามองไม่เห็นตอนแรกรู้สึกแย่ เพราะมันเคยเห็น แล้วมามองไม่เห็นรู้สึกแย่มาก อยู่ไปก็ชินเอง ต้องปรับตัวเยอะ ทั้งการเดิน การกิน การใช้ชีวิตไม่เหมือนเดิม ทุกวันนี้ไม่มีอุปสรรคแล้วเราได้รับการฝึกฝนมา มีวิชาโอเอ็มเอ็น วิชานวด มีเพื่อนๆ หลายๆ คน ได้เจอเพื่อนก็มีแรงต่อสู้กับชีวิต
ขณะเดียวกัน น.ส.ปาณิศา เสนารัตน์ ประชาชนผู้มาให้บริการ กล่าวว่า วันนี้มาให้หมดนวดด้วยอาการปวดสะโพกและสะบักข้างซ้าย เป็นมาหลายวัน มาวันนี้หมอกดจุด นวดเส้น และนวดโกยท้องเปิดประตูลม เส้นท้องมันตึงเวลานวดแล้วตอนนี้ก็รู้สึกว่าโล่งแล้ว
“โครงการนี้ดีมาก ช่วยเหลือสังคม สำหรับหมอพิการทางสายตาเก่ง เขาสามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ด้วยอาชีพของเขาไม่เป็นภาระให้สังคม ฝีมือก็ใช้ได้ ถือว่าดีมาก” น.ส.ปาณิศากล่าวในตอนท้าย
