บุรีรัมย์ - ผู้สมัครรับเลือกตั้งนายก อบจ.บุรีรัมย์จี้ กกต.เร่งตรวจสอบเอาผิดกลุ่มบุคคลใช้หรือจ้างวานให้คนมาลงสมัครรับเลือกตั้ง ระบุนำคนอยู่ในเขตเลือกตั้งอื่นมาสมัครในเขตเลือกตั้งแต่ละเขตเพื่อให้ได้เบอร์เดียวกันตามต้องการ เป็นการกระทำไม่ชอบด้วยกฎหมาย ให้เสร็จก่อนจะมีเลือกตั้ง 20 ธ.ค.นี้
วันนี้ (3 ธ.ค.) นายประเสริฐ เลิศยะโส ผู้สมัครรับเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (นายก อบจ.) บุรีรัมย์ หมายเลข 1 ได้เดินทางมาติดตามเรื่องพร้อมยื่นเอกสารเพิ่มเติม ประกอบด้วย สำเนาร้องเรียนการรับสมัครเลือกตั้ง, สำเนาประกาศบัญชีรายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้งนายก อบจ.บุรีรัมย์ และสำเนาประกาศบัญชีรายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภา อบจ.บุรีรัมย์ ให้แก่ นายสุรพงศ์ ทิพย์โอสถ รอง ผอ.กกต.บุรีรัมย์ หลังจากเมื่อวันที่ 13 พ.ย.ที่ผ่านมาได้ยื่นหนังสือร้องเรียนการสมัครรับเลือกตั้งให้แก่ น.ส.ปิยนาฏ กลางพนม ผอ.กกต.บุรีรัมย์ ถึงประธานคณะกรรมการการเลือกตั้งจังหวัดบุรีรัมย์ และนายอิทธิพร บุญประคอง ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง
ในหนังสือร้องเรียนระบุว่า เนื่องจากวันที่ 2-6 พฤศจิกายน 2563 ได้มีการรับสมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดบุรีรัมย์ และสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดบุรีรัมย์ ได้มีกลุ่มบุคคลกลุ่มหนึ่งใช้วิธีอันไม่ชอบด้วยกฎหมาย ได้ดำเนินการใช้หรือจ้างวานให้คนมาลงสมัครรับเลือกตั้ง โดยประสงค์ให้คนของตนได้หมายเลขเดียวกัน ทั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด และสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด เพื่อประสงค์ที่จะทุจริตในการเลือกตั้ง
ด้วยวิธีดังกล่าวนี้ ได้ใช้หรือจ้างวานให้บุคคลอื่นไปสมัครหมายเลขให้ครบถ้วนไปถึงหมายเลข 7 และกลุ่มการเมืองดังกล่าวได้ให้คนในสังกัดตนเองมาลงสมัครรับเลือกตั้งหมายเลขเดียวกัน ถือว่าเป็นการกระทำโดยทุจริตเป็นความผิดตามกฎหมาย จึงขอให้สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งดำเนินการสืบสวนและสอบสวนเอาผิดในกรณีดังกล่าว
นายประเสริฐ เลิศยะโส อดีต ส.ส.บุรีรัมย์ ผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด หมายเลข 1 กล่าวว่า สืบเนื่องจากได้เคยยื่นเรื่องการใช้ จ้างวานให้บุคคลอื่นไปสมัครรับเลือกตั้งเพื่อให้ได้หมายเลขถึงเลขที่ 8 เป็นผู้สมัครทั้งนายก อบจ. และสมาชิกสภา อบจ. บัดนี้หลักฐานปรากฏชัดตามบัญชีรายชื่อผู้สมัครนายก อบจ. และสมาชิกสภา อบจ.ทั้ง 42 เขตเลือกตั้งในจังหวัดบุรีรัมย์ โดยการนำคนอยู่ในเขตเลือกตั้งอื่นมาสมัครในเขตเลือกตั้งแต่ละเขตเพื่อให้ได้หมายเลขเดียวกันตามต้องการ ซึ่งเป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย จึงขอให้ กกต.ดำเนินการสอบสวนและลงโทษตามกฎหมายโดยด่วนที่สุด ก่อนจะมีการเลือกตั้งในวันที่ 20 ธ.ค. 2563