เชียงใหม่ - พ่นยาฆ่าเชื้อตามจุดต่างๆ ทั่วเชียงใหม่ที่หญิงสาวป่วยโควิด-19 รายล่าสุดไป ทั้งบาร์โฮสต์ และห้างสรรพสินค้าชื่อดัง พบสุดน่าห่วงบาร์โฮสต์แพร่กระจายเชื้อ หลังลูกค้าที่เข้าไปใช้บริการแฉสถานที่คับแคบแออัด พนักงานหนุ่มให้บริการแนบชิด ไม่มีการสวมหน้ากากและเว้นระยะห่าง
ความคืบหน้ากรณีจังหวัดเชียงใหม่ตรวจพบหญิงสาวอายุ 29 ปี ป่วยติดเชื้อโควิด-19 เมื่อวันที่ 26 พ.ย. 63 หลังลักลอบเดินทางจากฝั่งประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาทางจังหวัดเชียงราย และเดินทางต่อมายังจังหวัดเชียงใหม่เมื่อวันที่ 24 พ.ย. 63 ทั้งที่เริ่มมีอาการป่วยก่อนหน้านั้นแล้ว 1 วัน และเมื่อเข้ามาปรากฏว่ามีประวัติเดินทางไปอีกหลายสถานที่ ทั้งห้างสรรพสินค้า และเที่ยวบาร์โฮส รวมทั้งพักคอนโดมิเนียม จนกระทั่งป่วยและเข้าพบแพทย์ตรวจพบเชื้อยืนยันในที่สุด จากการสอบสวนโรคเบื้องต้นพบว่ามีกลุ่มผู้สัมผัสทั้งเสี่ยงสูงและเสียงต่ำรวมกันทั้งสิ้นกว่า 300 คน
วันนี้ (28 พ.ย.) รายงานข่าวแจ้งว่า เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้เข้าตรวจสอบเก็บตัวอย่างสารคัดหลั่ง และพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อทำความสะอาดที่บาร์โฮสต์แห่งหนึ่งย่านถนนสิริธร ในตัวเมืองเชียงใหม่ ซึ่งเป็นสถานที่หญิงสาวผู้ป่วยเข้าไปใช้บริการเมื่อคืนวันที่ 24 พ.ย.ต่อเนื่องถึงเช้ามืดอีกวัน พร้อมกันนี้ได้มีการสั่งปิดบาร์โฮสต์ดังกล่าวเป็นการชั่วคราวด้วย นอกจากนี้ พบว่าห้างสรรพสินค้าชื่อดังกลางเมืองเชียงใหม่ที่ผู้ป่วยสาวรายเดียวกันนี้เข้าไปใช้บริการก็ได้มีการปิดทำการตั้งแต่เวลา 16.00 น.วันนี้ เพื่อพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อทำความสะอาดเช่นเดียวกัน
ขณะที่นายกานต์ (นามสมมติ) อายุ 26 ปี พนักงานเอกชนซึ่งมีที่พักอยู่ใกล้กับบาร์โฮสต์ดังกล่าว รวมทั้งเป็นลูกค้าที่เพิ่งเคยเข้าไปใช้บริการเมื่อไม่นานมานี้ด้วย เปิดเผยว่า หลังจากที่ทราบข่าวว่ามีหญิงสาวป่วยติดเชื้อโควิด-19 ในจังหวัดเชียงใหม่และมีประวัติเพิ่งเข้าไปใช้บริการในบาร์โฮสต์แห่งนี้ด้วย รู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก และยอมรับว่ามีความเป็นห่วงกังวลว่าอาจจะมีผู้ติดเชื้อจากการที่ผู้ป่วยรายดังกล่าวเข้าไปใช้บริการ เพราะลักษณะสถานที่ค่อนข้างคับแคบเนื่องจากเป็นตึกแถวสองคูหาเท่านั้น แต่เฉพาะชายหนุ่มที่ให้บริการอยู่ของร้านก็มีเกือบ 50 คนแล้ว ทำหน้าที่คอยให้บริการลูกค้า ทั้งหญิงสาว และผู้ชายที่มีรสนิยมทางเพศชื่นชอบผู้ชายด้วยกันเข้าไปใช้บริการจำนวนมากเป็นประจำทุกคืน
ทั้งนี้ นายกานต์ (นามสมมติ) บอกด้วยว่า ลักษณะการให้บริการของชายหนุ่มพนักงานบาร์โฮสต์แห่งนี้จะเป็นไปอย่างแนบแน่นใกล้ชิดและไม่มีการสวมใส่หน้ากากอนามัย หรือเว้นระยะห่างใดๆ ทั้งสิ้น จึงมองว่ามีความเสี่ยงสูงอย่างมากที่จะเกิดการแพร่เชื้อ โดยร้านแห่งนี้จะเปิดตั้งแต่ช่วงค่ำไปจนถึงช่วงเกือบเช้าตรู่ของอีกวันเป็นประจำและมีลูกค้าใช้บริการจำนวนมากทุกวันเช่นเดียวกัน โดยขณะนี้ได้แต่หวังว่าเจ้าหน้าที่จะสามารถควบคุมไม่ให้มีผู้ติดเชื้อจากผู้ป่วยสาวคนดังกล่าวเพิ่มเติมอีก