เชียงราย - อดีตหลวงปู่พุทธะอิสระ ขึ้นเชียงรายพร้อมตระเวนทั่วเหนือเปิดเวทีบรรยายปลุกจิตสำนึกพร้อมนำมวลชนปฏิญาณแสดงความจงรักภักดี นัดระดมพลทั่วประเทศเข้ากรุงเทพฯ 5 ธันวา โชว์พลังปกป้องสถาบันฯ
วันนี้ (19 พ.ย. 63) ที่ลานอเนกประสงค์ บ้านสวนดอก ต.แม่กรณ์ อ.เมืองฯ จ.เชียงราย นายสุวิทย์ ทองประเสริฐ หรืออดีตหลวงปู่พุทธะอิสระ อดีตเจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย จ.นครปฐม ที่เคลื่อนไหวปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ได้จัดการปราศรัยต่อมวลชนในพื้นที่ จ.เชียงราย มีผู้ข้าร่วมรับฟังเป็นจำนวนมาก กิจกรรมมีการบรรยายโดยนายสุวิทย์ พร้อมร่วมกันกล่าวคำปฏิญาณต่อหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ และร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี ก่อนยืนตรงเคารพธงชาติตามลำดับ ขณะที่ช่วงบรรยายนายสุวิทย์ได้อธิบายถึงที่มาของการชุมนุมของคณะราษฎรในปัจจุบันพร้อมนำเสนอภาพการชุมนุมเพื่อให้ร่วมกันออกมาปกป้องสถาบันฯ แต่ไม่ควรด่าว่าเด็กและเยาวชน โดยให้ใจเย็นเพราะถือว่าเป็นลูกหลานของพวกเรา รวมทั้งให้อภัยและค่อยๆ บอกสอนเขาเพื่อให้สถาบันฯ ยังคงอยู่คู่ประเทศไทยตลอดไป
อดีตหลวงปู่พุทธะอิสระกล่าวด้วยว่า พวกเราต้องป้องกันเสาหลักของประเทศและหลักใจของบ้านเมือง คือ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ขาดเสาใดไปบ้านเมืองก็จะสั่นคลอน ดังนั้นจึงขอเชิญชวนให้ประชาชนได้พากันเดินทางไปร่วมกันชุมนุมที่กรุงเทพฯ ในวันที่ 5 ธ.ค.นี้ โดยตนจะคอยจัดหารถไปรับโดยไม่ต้องมีการกะเกณฑ์ เพียงให้ทุกคนสวมเสื้อเหลืองไปพร้อมกัน พวกเราแม้จะอายุมากแต่ก็ถือว่ามีประสบการณ์มาก โดยก่อนหน้านั้นตนก็จะเดินทางไปรณรงค์ในลักษณะเดียวกันนี้ต่อที่ จ.ลำปาง จ.เชียงใหม่ โดยเวลา 06.00 น.ของวันที่ 21 พ.ย.จะไปบวงสรวงศาลหลักเมืองเชียงใหม่ แล้วตระเวนทำการบวงสรวงลักษณะนี้ไปทั่วประเทศต่อไป
นอกจากนี้ นายสุวิทย์ได้บรรยายประกอบภาพว่า การชุมนุมของคนรุ่นใหม่ที่ผ่านมาสาเหตุที่มีคนไปกันมากเพราะมีการจัดพื้นที่ให้ลักษณะคล้ายผับเธคที่มีการเสพสุรา และดนตรีเสียงดัง พร้อมดีเจชื่อดังไปร่วม ทำให้หลายคนไปร่วมเพื่อความสนุก มีสิ่งเร้าที่เข้ากับกิเลสเด็ก ดังนั้น รัฐบาลจึงไม่ควรใส่ใจมาก โดยให้หันไปพัฒนาเศรษฐกิจความเป็นอยู่ของประชาชน ส่วนเรื่องการชุมนุมก็ให้ฝ่ายความมั่นคงดำเนินการ โดยตำรวจไม่ควรเติมเชื้อไฟลงไปอีก ทั้งนี้ ล่าสุดยังทราบว่าในสัปดาห์หน้ากลุ่มผู้ชุมนุมจะพากันไปที่สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ซึ่งตั้งอยู่ในพระบรมมหาราชวัง อันเป็นเขตพระราชฐานชั้นใน จึงเห็นว่ามีความเหิมเกริมและกำเริบอย่างมาก สาเหตุเพราะพวกเขามีเบื้องหลังคือต่างชาติ หากว่าประเทศเราเหมือนหลายประเทศที่ยอมให้เข้าไปแทรกแซงก็จะไม่มีความวุ่นวาย แต่เมื่อไม่ยอมให้เข้ามาตั้งฐานทัพก็ทำให้ยุ่งเช่นนี้ดังกล่าว ดังนั้น คนที่ออกมาสนับสนุนจึงถือว่าขายชาติ
จากนั้นอดีตหลวงปู่พุทธะอิสระได้แจกแจงข้อเสนอ 10 ข้อของกลุ่มดังกล่าวว่า แม้แต่ประเทศสเปนพบว่าเมื่อมีผู้นำเสนอหรือโพสต์แค่ข้อความว่ากล่าวถึงพระมหากษัตริย์ ก็มีโทษจำคุกถึง 2 ปี ทั่วโลกก็มีกฎหมายเพื่อปกป้องสถาบันฯ และประเทศไทยเรามีมาตรา 112 ก็เพื่อเอาไว้ป้องกันพระองค์เพราะไม่สามารถออกมาชี้แจงเรื่องราวได้ แต่พวกนี้กลับให้ยกเลิกเพื่อจะออกมาด่าว่าได้เต็มที่แล้วมาอ้างว่าเพื่อปฏิรูปอีก ส่วนการให้ให้จัดการทรัพย์สินก็ถือว่าไม่ถูกต้อง เพราะเป็นทรัพย์ที่ตกทอดกันมาแต่อดีตแล้วก็ทรงเสียภาษีเหมือนประชาชนทั่วไป งบประมาณก็นำมาพัฒนาโครงการต่างๆ หลายพันโครงการและมีผู้ที่เกี่ยวข้องจำวนมาก นอกจากนี้ การที่ให้ยกเลิกประชาสัมพันธ์พระราชกรณียกิจก็เห็นว่าไม่มีเหตุผล หรืออาจเพราะมีความอิจฉาก็ยังสงสัยอยู่ ขณะเดียวกัน กรณีให้รื้อฟื้นสมัยรัชกาลที่ ๘ ตนเห็นว่าคนพวกนี้นำเรื่องไปบอกกล่าวทั่วโลกโดยไม่มีหลักฐาน ถือเป็นการใส่ร้าย แต่เมื่อพูดบ่อยๆ ได้ทำให้เด็กหลงเชื่อในที่สุด ส่วนข้อที่ห้ามไม่ให้รับรองการรัฐประหารนั้นตนเห็นว่าเขาตั้งใจจะให้เหมือนรัชกาลที่ ๗ ที่ต้องออกจากประเทศไปนั่นเอง