ฉะเชิงเทรา - กลุ่มพริตตี้และพีอาร์ร้านอาหารใน อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา รวมตัวบุกศาลากลางร้อง ผวจ. ส่ง จนท.ตรวจสอบข้อเท็จจริงหลังถูกเจ้าของหอพักร้องเรียนเรื่องเสียงดังจนต้องงดแสดงดนตรีทำลูกค้าหาย ด้าน ผอ.ศูนย์ดำรงธรรม- กอ.รมน.รับปากเร่งหาทางออก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา (17 พ.ย.) กลุ่มพริตตี้ และพีอาร์ร้านอาหารใน อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา จำนวนกว่า 10 คน ได้เดินทางมารวมตัวกันยื่นหนังสือร้องทุกข์ต่อ นายไมตรี ไตรติลานันท์ ผู้ราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา หลังได้รับความเดือดร้อนจากการถูกร้องเรียนจากบุคคลรายหนึ่งซึ่งอ้างตัวว่าเป็นเจ้าของกิจการหอพัก ที่ได้โทรศัพท์ไปแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจในทุกค่ำคืนว่า ทางร้านมีการแสดงดนตรีสดเสียงดัง
จนทำให้เทศบาลตำบลบางวัวคณารักษ์ มีหนังสือคำสั่งที่ ฉช.54404/1346 ลงวันที่ 29 ต.ค.63 ให้ทางร้านหยุดประกอบกิจการ หรือจัดให้มีการแสดงดนตรี
โดยกลุ่มพริตตี้บอกว่า หลังจากเทศบาลฯ มีคำสั่งดังกล่าวออกมาทำให้พนักงานภายในร้านกว่า 30 ชีวิต โดยเฉพาะกลุ่มพนักงานเชียร์อาหารและเครื่องดื่ม หรือสาวพริตตี้ พีอาร์ได้รับผลกระทบจากการไม่มีแขกหรือลูกค้าเข้าร้านเพราะไม่มีการแสดงดนตรี
และได้เรียกร้องให้ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา สั่งการให้เจ้าหน้าที่หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจสอบและพิสูจน์ข้อเท็จจริง
เบื้องต้น นายวราห์ เขินประติยุทธ ผู้อำนวยการศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดฉะเชิงเทรา ได้เดินทางมารับหนังสือบริเวณเชิงบันไดทางขึ้นศาลากลางจังหวัด พร้อมรับปากว่าจะทำการตรวจสอบและให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
โดยจะได้ประสานไปยังกระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่มีเครื่องมือตรวจวัดเสียง เพื่อพิสูจน์ว่าเสียงดนตรีดังเกินกว่าค่ามาตรฐานหรือไม่ พร้อมยืนยันว่าจะเร่งดำเนินการให้รวดเร็วที่สุด เพื่อบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนของผู้ที่มาร้องขอความเป็นธรรม
น.ส.วา (นามสมมติ) อายุ 20 ปี ชาว อ.บ่อทอง จ.ชลบุรี บอกว่า ตนเองทำงานส่งตัวเองเรียนในระดับปริญญาตรี ที่มหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งในภาคตะวันออก และได้ทำงานที่ร้านอาหารแห่งนี้มานานเกือบ 2 ปีแล้ว ที่ผ่านมาถือว่ามีรายได้เลี้ยงตนเองและเพียงพอในการใช้เรียนหนังสือโดยไม่ต้องเดือดร้อนถึงครอบครัว แต่หลังเกิดสถานการณ์โรคโควิด-19 ระบาด ทำให้ร้านอาหารถูกสั่งปิดเป็นเวลานานกว่า 4 เดือน ทำให้ตนเองและเพื่อนพีอาร์ได้รับผลกระทบอย่างหนักมานานแล้ว
และเมื่อสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลายทางร้านก็สามารถเปิดกิจการได้อีกครั้ง แต่กลับถูกผู้ไม่หวังดีกลั่นแกล้งโทรศัพท์ไปร้องเรียนเจ้าหน้าที่ตำรวจในทุกคืน ว่า ทางร้านมีการแสดงดนตรีเสียงดัง จนทางร้านไม่สามารถจัดแสดงดนตรีสดได้มาเกือบ 2 เดือน ส่งผลให้จำนวนลูกค้าลดลงอย่างต่อเนื่อง
เช่นเดียวกับ น.ส.วาย (นามสมมติ) อายุ 24 ปี นักศึกษาคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเปิดแห่งหนึ่ง บอกว่าตนเองมีภาระต้องจ่ายค่าห้องเช่า ค่าเทอม และยังต้องหาเงินส่งให้แก่ทางบ้าน และตนเองมีหน้าที่เชียร์เครื่องดื่มและอาหารให้แก่ลูกค้า รวมถึงช่วยชงสุราและช่วยเสิร์ฟอาหาร
และหากร้านเปิดไม่ได้ก็ยังไม่รู้ว่าจะทำอาชีพอะไรที่จะสามารถทำงานได้โดยไม่กระทบหรือตรงกับเวลาที่จะต้องเรียนหนังสือ
ด้าน น.ส.วไลพรรณ ตันศิริธนภาคย์ อายุ 44 ปี เจ้าของร้านบอกว่า ร้านของตนเองจะเปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 18.00 น. จนถึงเที่ยงคืน และไม่เคยเปิดให้บริการเกินกว่าเวลาที่กำหนด หลังถูกร้องเรียนก็ได้ทำการปรับปรุงแก้ไขจากเดิมที่เปิดร้านแบบเปิดโล่ง ก็ปรับร้านเป็นแบบปิดเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเสียงดังสร้างความเดือดร้อนให้แก่ชาวบ้านที่อยู่โดยรอบแต่สุดท้ายก็ยังคงถูกร้องเรียนไม่หยุด
"จึงอยากให้หน่วยงานที่รับผิดชอบเข้ามาตรวจพิสูจน์ข้อเท็จจริง และนำเครื่องมือวัดเสียงมาทำการตรวจสอบว่าเสียงจากทางร้านดังรบกวนหอพักที่อยู่ห่างไกลออกไปกว่า 300 เมตรหรือไม่ รวมทั้งขอให้เทศบาลฯ รับฟังเหตุผลของผู้ประกอบการด้วยเนื่องจากตนเองเห็นว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม ซ้ำยังถูกระงับใบอนุญาตดำเนินธุรกิจ" น.ส.วไลพรรณ กล่าว
ด้าน พ.อ.ธานิน ธวัชศิลปะศร หัวหน้ากลุ่มงานบุคคลคล กอ.รมน.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นหน่วยงานด้านความมั่นคงในพื้นที่ รับปากว่าจะช่วยติดต่อประสานงานไปยังหน่วยงานต่างๆ ให้เร่งเข้าตรวจพิสูจน์ข้อเท็จจริง