ลำพูน - รวบแก๊งจำนำทองปลอม..ใช้เงินเคลือบทองจริงไม่พอนำบัตรคนตายตระเวนหลอกร้านทองทั่วประเทศจนเถ้าแก่ร้านทองลำพูนเจอพิรุธปิดร้านขังแจ้ง ตร.จับ สอบพบประวัติฉาวโชกโชนก่อคดีทั้งอีสาน ตะวันออก เหนือ
เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.นิคมอุตสาหกรรม จ.ลำพูน ร่วมกันจับกุมตัว นายสานิต ญาณยุทธ อายุ 63 ปี อยู่บ้านเลขที่ 9/140 แขวงบางแวก เขตภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร ได้ภายในร้านจำหน่ายทองลัคกี้ เยาวราช เลขที่ 204/20 หมู่ที่ 1 ต.บ้านกลาง อ.เมืองลำพูน เมื่อค่ำที่ผ่านมา (3 พ.ย.) ขณะนำสร้อยคอทองคำปลอม น้ำหนักเส้นละ 2 บาท จำนวน 2 เส้น ไปขายให้พนักงานขายทองภายในร้านฯ เป็นเงินจำนวน 96,000 บาท
ขณะผู้ต้องหาเดินเข้าไปในร้านฯ นายสุวิจักขณ์ กังวาลไกร อายุ 32 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของร้านทองลัคกี้ เยาวราช ได้ยืนอยู่ร้านทองอีกร้านที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกัน แล้วสังเกตเห็นว่าชายคนที่เข้าไปในร้านทราบชื่อต่อมาคือนายสานิต ใส่หมวกปิดบังใบหน้าและใส่ผ้าปิดจมูก ลักษณะท่าทางไม่น่าไว้วางใจ
เมื่อเดินเข้าไปดูก็พบว่านายสานิตมีรูปร่างหน้าตาใกล้เคียงกับบุคคลที่สมาคมร้านทองฯ เคยแจ้งเตือนภัยให้ระวังแก๊งขายทองปลอม อีกทั้งระหว่างที่เข้าไปซักถามยังแสดงอาการมีพิรุธ จึงได้ทำการปิดล็อกประตูร้านทอง นายสานิตเห็นท่าไม่ดีพยายามจะหลบหนีแต่ไม่สามารถเปิดประตูหนีได้ ระหว่างนั้นนายสุวิจักขณ์ก็โทรศัพท์แจ้งให้เพื่อนที่เป็นตำรวจทราบ ก่อนที่จะส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาจับกุมไปสอบสวนที่ สภ.นิคมอุตสาหกรรมภาคเหนือ
เมื่อตรวจสอบทองที่นำมาจำนำด้วยตาเปล่าจะไม่รู้ว่าเป็นทองปลอมเพราะทำมาแนบเนียนมาก กระทั่งใช้เคมีตรวจสอบก็ปรากฏว่าเป็นทองปลอม เพราะด้านในเป็นเงินชุบด้วยทองคำแท้เคลือบด้านนอก
หลังจากนั้นกลุ่มสมาคมร้านทองได้มีการแจ้งเตือนภัยให้สมาชิกทราบ ซึ่งทุกร้านได้ทำการตรวจสอบสร้อยคอทองคำที่รับจำนำหรือขายฝากไว้ ปรากฏว่ามีร้านทองที่ตกเป็นเหยื่ออีก 1 ร้าน คือร้านทองใหม่เยาวราช ต.ทากาศ อ.แม่ทา จ.ลำพูน โดยคนร้ายนำทองมาขายฝากเมื่อวันที่ 31 พ.ย. 63 ที่ผ่านมา จึงมีการนำหลักฐานที่เกี่ยวข้องพร้อมด้วยภาพจากกล้องวงจรปิดเดินทางมาแจ้งความเพิ่มเติม
เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.นิคมอุตหสากรรมฯ นายสานิต ผู้ต้องหาให้การว่า ก่อเหตุทั้ง 2 ร้านจริง โดยมากับผู้หญิงชื่อติ๋ม เป็นชาว จ.ลำพูน (หลบหนีการจับกุมไปได้) ซึ่งรู้จักกันที่กรุงเทพฯ นานแล้ว พร้อมยอมรับว่าหากินด้วยวิธีการนี้มานานประมาณ 5-6 ปีแล้ว และมีเพื่อนร่วมแก๊งหลายคน
วิธีการคือ รับสร้อยทองคำจากเพื่อนคนหนึ่งที่กรุงเทพฯ แล้วใช้บัตรประชาชนปลอมของคนที่เสียชีวิตไปแล้วที่หน้าตาคล้ายตนเองเป็นหลักฐานตระเวนขายฝาก หากร้านไหนซักมากสอบถามเรื่องเยอะ หรือต้องการเอกสารเพิ่มเติมก็จะปฏิเสธไม่ขายแล้วเดินออกไปเลือกร้านที่ไม่เรื่องมากแทน โดยพากันตระเวนไปหลายจังหวัด เมื่อได้เงินจากการขายฝากก็จะแบ่งกัน ทำไปเรื่อยๆ และตั้งใจว่าเสร็จงานครั้งนี้ก็จะหยุดแล้ว แต่มาถูกจับเสียก่อน ซึ่งตนยอมรับสิ่งที่ตนเองทำ
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแจ้งข้อกล่าวหา 3 ข้อหา คือ 1. ใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่น (บัตรประจำตัวประชาชน) โดยมิชอบ ในประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นฯ 2. พยายามฉ้อโกงทรัพย์ฯ 3. ฉ้อโกงทรัพย์ฯ
จากการตรวจสอบประวัติของนายสานิต พบว่าก่อคดีฉ้อโกงทรัพย์ท้องที่ สภ.ศรีมหาโพธิ์ จ.ปราจีนบุรี ปี 2552 คดีฉ้อโกงทรัพย์ท้องที่ สภ.คง จ.นครราชสีมา ปี 2554 คดีฉ้อโกงทรัพย์ท้องที่ สภ.ปากคาด จ.บึงกาฬ ปี 2554 คดีฉ้อโกงทรัพย์ ท้องที่ สภ.เมืองร้อยเอ็ด จ.ร้อยเอ็ด ปี 2554 คดีพยายามฉ้อโกงทรัพย์ท้องที่ สภ.เมืองพิจิตร จ.พิจิตร ปี 2557 และนอกจากนั้นยังมีคดียาเสพติดอีกหลายคดี กระทั่งล่าสุดก่อเหตุหลายท้องที่ใน จ.ลำพูนด้วย