ศูนย์ข่าวขอนแก่น - โหยหาเลือกตั้งกันมานาน ทำเอาบรรยากาศสมัครรับเลือกตั้ง ส.อบจ.และนายก อบจ.ขอนแก่นวันแรกคึกคักมาก มีทั้งหน้าเก่า อดีตนายกฯ "พงษ์ศักดิ์"และ หน้าใหม่ "อัษฏางค์"ชิงเก้าอี้ ขณะที่แกนนำขอนแก่นพอกันที พี่เลี้ยงม็อบปลดแอกโผล่มาให้กำลังใจผู้สมัคร ส.อบจ.เขต 1 ด้านทายาทโรงโม่หินเทพประทานพรลงชิง ส.อบจ.เขต อ.ภูผาม่านด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (2 พ.ย.) ที่ห้องประชุมองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ขอนแก่น นายวรทัศน์ ธุลีจันทร์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น พร้อมด้วย นายอภินันท์ จันทร์อุปละ ผอ.กกต.ขอนแก่น และ นางพัฒนาวดี วิริยปิยะ ปลัด อบจ.ขอนแก่น ในฐานะ ผอ.กกต.อบจ.ขอนแก่น ได้เดินทางดูแลความเรียบร้อยการสมัครรับการเลือกตั้งสมาชิกสภา อบจ.และนายก อบจ.ขอนแก่น โดยวันนี้เปิดรับสมัครเป็นวันแรก
บรรยากาศในหอประชุมคึกคักตั้งแต่เช้า มีว่าที่ผู้สมัคร และผู้ให้การสนับสนุนทยอยเดินทางมาลงเวลาก่อนถึงเวลาการรับสมัครจำนวนมาก
ต่อมาเมื่อถึงเวลา 08.30 น. กกต.อบจ.ขอนแก่นได้ทำการกดกริ่งสัญญาณเปิดสมัครรับการเลือกตั้งตามขั้นตอนตามที่กฎหมายเลือกตั้งกำหนด โดยผู้ที่ลงสมัครรับเลือกตั้งในส่วนของตำแหน่งนายก อบจ.ขอนแก่น มี นายพงษ์ศักดิ์ ตั้งวานิชกพงษ์ อดีตนายก อบจ.ขอนแก่นหลายสมัย ได้นำทีมมาลงเวลา และแสดงตัวเป็นผู้สมัครด้วยตามคาด ท่ามกลางเสียงเชียร์ของผู้สนับสนุนที่มาให้กำลังใจจำนวนมาก
จากการตรวจสอบพบว่าผู้ที่มาลงเวลาก่อนถึงเวลาเปิดรับสมัครรับเลือกตั้งนายก อบจ.เวลา 08.30 น. ประกอบด้วย 1. นายพงษ์ศักดิ์ ตั้งวานิชกพงษ์, 2. นายอัษฏางค์ แสวงกา 3. น.ส.ณัฎฐณิชา สารบรรณ 4. น.ส.กรชฎาพิชญ์ ภูมิเขต 5. นายภัทรพันธุ หงส์วัฒนาพิเชษฐ และ 6. นายชัยอนันต์ วูดเลย์จูเนียร์
อย่างไรก็ตาม มีรายงานเพิ่มเติมแจ้งว่า ในการเปิดรับสมัครรับเลือกตั้งครั้งนี้ ได้มี นายปติวัฒน์ สาหร่ายแย้ม หรือ “หมอลำแบงค์” แกนนำขอนแก่นพอกันที เครือข่ายผู้สนับสนุนอดีตพรรคอนาคตใหม่และกลุ่มก้าวไกล ซึ่งเพิ่งจะถูกปล่อยตัวจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพเมื่อวันที่ 30 ตุลาคมที่ผ่านมา เดินทางมาให้กำลังใจในฐานะเป็นผู้สนับสนุนว่าที่ผู้สมัคร ส.อบจ.ขอนแก่น เขต 1
ทันทีที่เข้ามาถึงภายในหอประชุม นายปติวัฒน์เห็นมีผู้สมัครรายหนึ่งพยายามแทรกคิวผู้ลงสมัครที่เขาให้การสนับสนุนอยู่ ทำให้นายปติวัฒน์แสดงความไม่พอใจการทำงานของเจ้าหน้าที่ ได้ส่งเสียงดังเอะอะโวยวาย กระทั่งคนที่แทรกคิวได้เดินหนีออกจากห้องไป และเจ้าหน้าที่ได้เข้าห้ามปรามนายปติวัฒน์ให้อยู่ในอาการสงบ จนสถานการณ์กลับเข้าสู่ภาวะปกติ
ดร.อัษฏางค์ แสวงการ ผู้สมัคร นายก อบจ.ขอนแก่น หัวหน้ากลุ่มมหานครขอนแก่นหมายเลข4 กล่าวว่า
ขอนแก่นเป็นจังหวัดที่เป็นเหมือนเมืองหลวงของภาคอีสาน เป็นศูนย์กลางด้านเศรษฐกิจและคมนาคม และเป็นศูนย์กลางทางการแพทย์ในภูมิภาค เพราะกำลังพัฒนาโครงการเมดิคอลฮับ ด้วยความสำคัญทางยุทธศาสตร์ จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องมีผู้นำองค์กรท้องถิ่นที่มีวิสัยทัศน์ในการขับเคลื่อนการพัฒนาให้ไปถึงเป้าหมาย พี่น้องประชาชนกินดีอยู่ดี
ด้วยเหตุนี้ ตนจึงเสนอตัวเข้ามาชิงตำแหน่ง อบจ.ขอนแก่น ในนามกลุ่มมหานครขอนแก่น เพื่อประสานการทำงานกับทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นองค์การบริหารส่วนตำบล เทศบาลเมือง เทศบาลนคร รวมถึงหน่วยงาน ราชการ ซึ่งจะทราบว่าต่อไปก็จะมีการกระจายรายได้งบประมาณลงสู่ท้องถิ่นเป็นจุดที่เรามุ่งมั่นต้องการ
อย่างไรก็ตามนโยบายเฉพาะหน้าที่จะช่วยอำนวยความสะดวกให้พี่น้องประชาชนชาวขอนแก่นคือการผลักดันให้จังหวัดขอนแก่นมีสถานีขนส่งหรือ บขส. 2 แห่ง คือ ต้องมี บขส.อยู่ในตัวเมืองด้วย เพราะตอนนี้ยุบรวมไปใช้บริการ บขส. 3 เพียงแห่งเดียวแถวทางเลี่ยงเมือง ซึ่งอยู่ไกลจากตัวเมืองมาก หากเพิ่มขึ้นมาอีกแห่งคือใช้สถานีขนส่งแห่งที่ 1(จนส่งเดิม)จะลดความเดือดร้อนในการคมนาคมให้พี่น้องประชาชนได้มาก
"ส่วนในการเลือกตั้งท้องถิ่นที่เราไม่ได้เลือกตั้ง มานานแล้ว วันนี้ต้องฝากพี่น้องประชาชนในจังหวัดขอนแก่นว่า การเลือกตั้งในครั้งนี้ เป็นเรื่องที่ ประชาชนรอคอยมานาน ที่จะได้เห็นการเลือกตั้งที่มีประชาชนให้ความสำคัญแล้วก็สร้างท้องถิ่นร่วมกับกลุ่มมหานครขอนแก่น"ดร.อัษฏางค์กล่าว
ด้านนายปรัชญา ทองแท่งไทย อดีต นายก.อบต.วังสวาบ อ.ภูผาม่าน ผู้สมัคร ส.อบจ.เขตอำเภอภูผาม่าน หมายเลข2 ทายาทเครือข่ายธุรกิจโรงโม่หินเทพประทานพรกรุ๊ป กล่าวว่าการลงเลือกตั้งสนาม อบจ.ครั้งนี้ตนมีความพร้อมมาก เพราะนอกจากเป็นชาวภูผาม่านแล้วยังเคยรับใช้พี่น้องประชาชนในฐานะ นายก อบต.วังสวาบ อ.ภูผาม่านมาก่อน ทั้งยังมีพี่ชาย คือนายประกิต ทองแท่งไทย ซึ่งเป็นอดีต ส.อบจ.ภูผาม่าน ที่ให้คำปรึกษาแนะนำเกี่ยวกับการทำงานเข้าถึงทุกข์สุขของพี่น้องประชาชนได้เป็นอย่างดี
“มั่นใจว่าจะช่วยพัฒนาอำเภอภูผาม่าน ให้มีการพัฒนาก้าวหน้า ในด้านต่างๆไม่ว่าจะเป็นด้านท่องเที่ยว,สาธารณูปโภค และในด้านความเป็นอยู่ของชาวบ้านให้อยู่ดีกินดีมีสุขภาพดีมากขึ้น”
เป็นที่น่าสังเกตว่าบรรยากาศการเปิดรับสมัคร ส.อบจ.และนายก อบจ.ครั้งนี้เป็นไปอย่างคึกคัก อาจเป็นเพราะว่าห่างหายเวทีการเลือกตั้งไปนานหลายปี และยังพบอีกว่าผู้สมัครสมาชิกสภา อบจ.ทั้ง 42 เขตเลือกตั้งแต่ละเขตนั้นมีคนดังในท้องถิ่นลงรับสมัครหลายคน เป็นผู้สมัครหน้าใหม่ที่ไม่เคยลงสนามเลือกตั้งท้องถิ่นมาก่อน