ปราจีนบุรี - ปราจีนฯ ก็อ่วม! เหตุน้ำป่าไหลหลากท่วมบ้านเรือนประชาชนใน อ.นาดี ทำบ้านเรือนพังเสียหายหลายหลัง และยังมีผู้สูญหายจากการถูกน้ำพัดพร้อมตัวบ้านอีก 2 ราย หน่วยงานเกี่ยวข้องต้องลุยโคลนเข้าช่วยเหลือ ล่าสุด ปลัดอาวุโส แจงสถานการณ์น้ำในพื้นที่เริ่มลดแต่ยังคงเฝ้าระวังฝนหนักต่อเนื่อง
จากเหตุการณ์น้ำป่าไหลหลากทะลักเข้าท่วม 2 ตำบล ใน อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา ช่วง กลางดึกคืนวานนี้ จนทำให้มีประชาชนจำนวนมากไม่ทันได้ตั้งตัวและต้องพากันอพยพหนีตายกันวุ่น และล่าสุด มีรายงานผู้ถูกน้ำเชี่ยวซัดจมน้ำเสียชีวิต 1 ราย และยังรายงานผู้สูญหายหลายราย ทำให้ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ต้องสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งระดมความช่วยเหลือเป็นการด่วนนั้น
วันนี้ (1 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ในพื้นที่ จ.ปราจีนบุรี ก็ได้รับผลกระทบจากน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนใน อ.นาดี ในช่วงกลางดึกที่ผ่านมาเช่นกันและยังมีรายงานว่า เหตุการณ์ดังกล่าวยังทำให้มีผู้สูญหายไปกับตัวบ้านที่ถูกกระแสน้ำพัดไป จำนวน 2 ราย
ขณะที่ล่าสุดช่วงเช้าวันนี้ นายชัยวัฒน์ เอี่ยมละออ ปลัดอำเภออาวุโส อ.นาดี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ กอ.รมน. และหน่วยงานท้องถิ่นได้สนธิกำลังเจ้าหน้าที่เดินเท้าเข้าไปยังพื้นที่ ม.8 บ้านวังใหม่ ซึ่งมีรายงานว่า มีบ้านเรือนประชาชนถูกกระแสน้ำพัดหายไป 1 หลัง โดยใช้เวลาเดินเท้าลุยโคลนเข้าไปประมาณ 10 นาที จนพบว่าต้นไม้ขนาดใหญ่ในพื้นที่ถูกถอนรากถอนโคนไปกับกระแสน้ำจำนวนหลายสิบต้น
และจากการสอบถาม นางเสน่ห์ อถมพรมราช อายุ 55 ปี ชาวบ้านในพื้นที่บอกว่า บุคคลที่สูญหายไปกับกระแสน้ำเมื่อคืนที่ผ่านมาคือ นายสำเนียง อถมพรมราช อายุ 65 ปี ซึ่งเป็นพี่ชายของตนเอง และนางโอ๋ อถมพรมราช ภรรยา
พร้อมยังบอกอีกว่า ช่วงคืนที่ผ่านมาได้เกิดฝนตกหนักในพื้นที่และยังมีน้ำป่าไหลหลากอย่างรุนแรงจนสามารถพัดทุกสิ่งที่ขวางหน้าให้หายไปกับสายน้ำได้ ซึ่งขณะเกิดเหตุพี่ชายและพี่สะใภ้ได้หนีขึ้นไปอยู่บนชั้น 2 ของบ้าน ขณะที่หมู่บ้านดังกล่าวมีบ้านเรือนประมาณ 8 หลังคาเรือน และประชาชนได้พากันหนีน้ำออกจากบ้านได้ทัน เหลือแต่เพียงพี่ชายและพี่สะใภ้ที่ถูกน้ำพัดไปพร้อมตัวบ้าน
“พอรุ่งสางก็ไม่มีคนพบบ้าน และไม่สามารถติดต่อบุคคลทั้ง 2 ได้ และขณะนี้ยังไม่ทราบชะตากรรม ซึ่งทางญาติทำได้เพียงการจุดธูปบอกกล่าวเจ้าที่เจ้าทางเพื่อขอให้พบร่างของบุคคลทั้ง 2 ด้วย” นางเสน่ห์ กล่าว
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เมื่อเวลา 08.00 น.ที่ผ่านมา ยังมีมวลน้ำที่ไหลมาจากพื้นที่ ม.8 หลากเข้าท่วมบ้านบุพราหมณ์ จนทำให้บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายหลายหลัง และ 1 ในนั้นเป็นบ้านของ นายวีระศักดิ์ ยุติคุณภารัตน์ ซึ่งปลูกบ้านอยู่ติดกับคลองพญาธาร จนถูกน้ำพัดบ้านพังและทรัพย์สินเสียหาย นอกจากนั้น หมูที่เลี้ยงไว้ยังถูกน้ำพัดหายไปกับสายน้ำจำนวน 2 ตัว
และน้ำยังได้ไหลเข้าท่วมบ้านทับลาน และท่วมอุโมงค์ทางข้ามสัตว์ป่า ทำให้รถไม่สามารถสัญจรได้ทั้งขาขึ้นนครราชสีมา และเข้า อ.กบินทร์บุรี ทำให้ประชาชนในพื้นที่ต้องเร่งเก็บข้าวของหนีออกจากบ้านซึ่งมีน้ำท่วมสูงเกือบ 2 เมตร
ขณะที่ นายชัยวัฒน์ เอี่ยมละออ ปลัดอำเภออาวุโส กล่าวว่า ขณะนี้น้ำในพื้นที่เริ่มลดลงแล้ว เนื่องจากได้ไหลไปท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำ ซึ่งทางอำเภอได้รายงานให้จังหวัดทราบแล้ว และขอให้เจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด เนื่องจากในพื้นที่ยังคงมีฝนตกหนักต่อเนื่อง
