ศูนย์ข่าวศรีราชา - ฝ่ายปกครองร่วมกับ สภ.บ่อทอง จ.ชลบุรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งหาแนวทางป้องกันช้างป่าทำร้ายชาวบ้าน หลังมีพระถูกทำร้ายจนมรณภาพขณะออกบิณฑบาต เผยช่วงสัปดาห์เดียวดับแล้ว 2 ราย
จากเหตุการณ์ช้างป่าทำร้ายพระลูกวัดบุญญาวาส ม.8 ต.บ่อทอง อ.บ่อทอง จ.ชลบุรี จนมรณภาพ ในสภาพชิ้นส่วนร่างกายถูกช้างดึงฉีกขาดจนกระจายไปทั่ว สร้างความสลดใจแก่ผู้พบเห็น โดยเหตุเกิดขณะกำลังออกเดินบิณฑบาตเมื่อช่วงเช้าวานนี้ ซึ่งจุดเกิดเหตุอยู่ห่างจากวัดเพียง 1 กิโลเมตร และในที่เกิดเหตุยังพบรอยเท้าช้างเป็นจำนวนมากนั้น
ล่าสุด นายกิตติพงษ์ กิติคุณ นายอำเภอบ่อทอง พร้อมด้วย พ.ต.อ.กุลชาติ กุลชัย ผู้กำกับการ สภ.บ่อทอง และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รวมทั้งเจ้าหน้าที่สํานักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 2 ศรีราชา ได้ร่วมประชุมเพื่อหาทางป้องกันช้างป่าทำร้ายชาวบ้าน หลังในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิตแล้วถึง 2 ราย
โดยรายแรกคือ นายสมชาย ทรัพย์ประเสริฐ อายุ 34 ปี ซึ่งถูกช้างป่าทำร้ายภายในพื้นที่ป่า ม. 4 บ้านหนองจระเข้ ต.บ่อทอง อ.บ่อทอง จ.ชลบุรี เมื่อวันที่ 19 ต.ค.ที่ผ่านมา
และรายที่ 2 เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ ซึ่งช้างป่ายังได้ทำร้าย พระสุเทพ เร่งอนันท์ อายุ 52 ปี รพระลูกวัดสามง่าม จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งเดินทางมาจำวัดที่วัดวัดบุญญาวาส เพื่อช่วยงานกฐินในวันที่ 25 ต.ค.ที่จะถึงนี้ ซึ่งหลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้ร่วมกันผลักดันช้างให้กลับไปอยู่ในพื้นที่ของตัวเอง และเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
นายกิตติพงษ์ กิติคุณ นายอำเภอบ่อทอง เผยว่า หลังมีผู้เสียชีวิต 2 ราย จากถูกช้างทำร้ายในรอบ 3 วัน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้จัดการประชุมเร่งด่วนเพื่อป้องกันไม่ให้มีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นซ้ำ โดยจะให้ผู้ที่รับผิดชอบพื้นที่เร่งประชาสัมพันธ์ให้ชาวบ้านเฝ้าระวัง และติดตามข่าวสารต่างๆ รวมทั้งงดการเดินป่าในช่วงนี้
ขณะเดียวกัน จะเร่งผลักดันไม่ให้ช้างป่าเข้ามาอยู่ใกล้กับชุมชน และเตรียมติดตามช้างตัวที่ดุร้าย เพื่อนำตัวมาปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ในส่วนของพระที่มรณภาพนั้น ทางญาติได้เดินทางมารับศพเพื่อนำกลับไปประกอบพิธีทางศาสนาที่วัดบ้านธาตุ ต.สนามชัย อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยมีกำหนดการสวดพระอธิธรรม จำนวน 5 วัน และจะฌาปนกิจในวันพุธที่ 28 ต.ค.2563 ซึ่งชาวบ้ารที่ทราบข่าวได้ช่วยกันบริจาคเงินช่วยเหลือ จำนวน 91,000 บาทด้วย