บุรีรัมย์ - ผู้นำชุมชน ต.บ้านแพ จ.บุรีรัมย์ เฝ้าติดตามสถานการณ์น้ำมูลใกล้ชิด พร้อมแจ้งเตือนชาวบ้าน 6 หมู่บ้านติดริมลำน้ำมูล เตรียมรับมือมวลน้ำเหนือจากโคราชไหลสมทบหนุนสูงขึ้นต่อเนื่อง เอ่อท่วมต้นข้าวกำลังตั้งท้องจมแล้วกว่า 100 ไร่ ขณะน้ำ 4 อ่างจ่อล้นต้องเร่งระบาย
วันนี้ (13 ต.ค.) นายหวัน วาฤกษดี กำนันตำบลบ้านแพ อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ พร้อมด้วยผู้ใหญ่บ้าน ได้ลงพื้นที่สำรวจติดตามสถานการณ์น้ำมูลอย่างใกล้ชิด พบว่า ระดับน้ำมูลที่ไหลผ่านพื้นที่ตำบลบ้านแพ อ.คูเมือง มีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นจนล้นตลิ่ง จากอิทธิพลพายุฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจากการสำรวจเบื้องต้น พบว่า น้ำได้เอ่อเข้าท่วมนาข้าวที่กำลังตั้งท้องของเกษตรกรในพื้นที่ตำบลบ้านแพแล้ว 6 หมู่บ้าน คือ หมู่ 2, 3, 4, 6, 8 และหมู่ 10 เนื้อที่ประมาณ 100 ไร่ หากน้ำท่วมขัง 2 สัปดาห์นาข้าวดังกล่าวจะเน่าเสียหายทั้งหมด ซึ่งเบื้องต้น ได้รายงานข้อมูลระดับน้ำ และนาข้าวที่ถูกน้ำท่วมให้ทาง อบต.อำเภอ รับทราบแล้ว
ทั้งนี้ ยังได้ประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนชาวบ้านทั้ง 6 หมู่บ้าน ที่อาศัยอยู่ติดริมลำน้ำมูลซึ่งเป็นพื้นที่เสี่ยงให้เฝ้าระวัง และเตรียมพร้อมรับมือมวลน้ำเหนือที่จะไหลมาจาก จ.นครราชสีมา สมทบลงลำน้ำมูลซึ่งอาจทำให้เกิดภาวะน้ำท่วมฉับพลันได้ เพราะในปี 2553 เคยประสบปัญหาน้ำมูลเอ่อเข้าท่วมบ้านเรือน วัด และโรงเรียนมาแล้ว
นายหวัน วาฤกษดี กำนันตำบลบ้านแพ กล่าวว่า ช่วงนี้ระดับน้ำมูลเพิ่มขึ้นต่อเนื่องและได้เอ่อเข้าท่วมนาข้าวที่กำลังตั้งท้องแล้วกว่า 100 ไร่ และคาดว่าอีก 3-4 วัน มวลน้ำเหนือจากนครราชสีมาจะไหลลงมาสมทบในลำน้ำมูลเพิ่มอีก จึงได้ลงพื้นที่ติดตามระดับน้ำทุกวันพร้อมแจ้งเตือนให้ชาวบ้านในพื้นที่เสี่ยงภัยติดลำน้ำมูล 6 หมู่บ้านได้เฝ้าระวังและเตรียมรับมือน้ำท่วมฉับพลันด้วย
สำหรับ จ.บุรีรัมย์ มีน้ำมูลไหลผ่านพื้นที่ 3 อำเภอ คือ อ.คูเมือง อ.แคนดง และ อ.สตึก ขณะนี้น้ำได้เอ่อล้นตลิ่งทั้ง 3 อำเภอแล้ว ขณะที่สถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำทั้ง 16 แห่งของ จ.บุรีรัมย์ มีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีอ่างเก็บเกินระดับกักเก็บ 4 แห่ง คือ อ่างเก็บน้ำลำตะโคง อ.แคนดง อ่างเก็บน้ำห้วยสวาย อ.กระสัง อ่างเก็บน้ำห้วยตาเขียว และอ่างเก็บน้ำห้วยตะโก อ.บ้านกรวด ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้มีการระบายน้ำออกอย่างต่อเนื่องเพื่อเตรียมรับมวลน้ำใหม่ และลดผลกระทบไม่ให้หลากท่วมพื้นที่การเกษตรและบ้านเรือนประชาชน