อุดรธานี - เรื่องยุ่งเริ่มขึ้นแล้ว เผยญาติรุมขอยืมเงินบริจาคช่วย “น้องแมนยู” เด็กชายวัย 9 ขวบ ตาบอดแต่เด็ก และแขนเพิ่งขาดจากอุบัติเหตุ ตอนนี้พักฟื้นอยู่ รพ.อุดรฯ หลังยอดบริจาคล่าสุดรวมกว่า 4 ล้านบาทเศษ ขณะที่อาการน้องแมนยูดีขึ้นเป็นลำดับ
จากกรณี น.ส.กิริตากร มะระครอง อายุ 28 ปี เจ้าหน้าที่ รพ.สต.แห่งหนึ่งใน จ.เลย ได้โพสต์เรื่องราวอันสะเทือนใจของ “น้องแมนยู” ด.ช.ธีรศักดิ์ วรรณไชย วัย 9 ขวบ ที่เคราะห์ร้ายแขนซ้ายขาดจากอุบัติเหตุ โดยบอกว่า “ควรทำอย่างไร หน่วยงานไหนช่วยได้ ค่าใช้จ่าย ณ ปัจจุบัน 105,000 บาท กว่าจะออกควรทำยังไง อุบัติเหตุต้องจ่ายเองทั้งหมด พ.ร.บ.ขาด แม่ตาบอด ตาหนูหนวก ส่วนตาน้องตาบอดข้างซ้าย ยังมาแขนขาดอีก”
หลังโพสต์ออกไปชาวโซเชียลต่างพากันสงสารแห่โอนเงินช่วยเหลือ และบางคนรู้ข่าวเดินทางมาร่วมบริจาคช่วยน้องแมนยู ถึง รพ.อุดรธานี ล่าสุด มียอดเงินบริจาครวมทุกบัญชีแล้วกว่า 4 ล้านบาทเศษ
สำหรับยอดเงินบริจาคดังกล่าวแบ่งเป็น 3 ส่วน ส่วนแรกได้จากบัญชีขวัญใจ กอภูธร ได้จำนวนเงิน 1,195,710.45 บาท ส่วนที่ 2 จากบัญชี น.ส.กิริตากร มะระครอง จำนวน 29,368 บาท และบัญชีจากครูแพรวโรงเรียนบ้านหนองผำ จำนวน 43,340 บาท โดยเงินทั้ง 3 บัญชี ทางนายอำเภอเมือง จ.เลย ได้ร่วมเป็นสักขีพยานได้มอบให้แก่นางคำหล้า วรรณไชย แม่ของน้องแมนยู เป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อวันก่อน
นอกจากนี้ ยังมีบัญชีของธนาคารกรุงไทย สาขาเลย ชื่อบัญชี รับบริจาคช่วยเหลือเด็กชายธีรศักดิ์ วรรณไชย ซึ่งทางโรงเรียนได้เปิดเอาไว้เพื่อไว้เป็นทุนการศึกษาให้น้องแมนยู ล่าสุด มียอดบริจาคเข้ามาประมาณ 3,400,000 บาทเศษ หากรวมเงินบริจาคของผู้ใจบุญทั้งหมดที่หลั่งไหลมาช่วยน้องแมนยูรวมแล้วกว่า 4 ล้านบาทเศษ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับอาการของน้องแมนยู หลังผ่าตัดต่อแขนซ้ายที่ขาด ขณะนี้ดีขึ้นเป็นลำดับ สามารถกินข้าวเองได้และเดินได้แล้ว แต่ต้องมีญาติคอยพยุงตัวและอุ้มแขนซ้ายที่ต่อให้ด้วยตลอดเวลา โดยวันนี้มีเจ้าหน้าที่จากสำนักงานยุติธรรมจังหวัดอุดรธานีเดินทางมาเยี่ยมน้องแมนยู และนางคำหล้า วรรณไชย แม่ของน้องแมนยู
อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า ตอนนี้มีเรื่องราววุ่นๆ เกิดขึ้นเกี่ยวกับเงินบริจาคของน้องแมนยู มีญาติบางคนไปขอยืมเงินในบัญชีกรุงไทยที่ทางโรงเรียนเปิดให้น้องแมนยู หลังรู้ข่าวมีเงินบริจาคเข้ามาร่วม 3 ล้านบาทเศษ โดยแหล่งข่าวคณะกรรมการสถานศึกษาโรงเรียนบ้านหนองผำ ที่น้องแมนยู เรียนอยู่ บอกว่า มีญาติบางคนได้พยายามไปขอยืมเงินที่มีคนมาร่วมบริจาคช่วยน้องแมนยู จากคณะกรรมการสถานศึกษาโรงเรียนบ้านหนองผำ จำนวน 300,000 บาท เพื่อนำไปใช้จ่าย แต่ที่ประชุมคณะกรรมการบอกไม่สามารถให้ได้
เพราะจุดประสงค์ของผู้ใจบุญต้องการช่วยเหลือน้องแมนยู และทางโรงเรียนมีเป้าหมายชัดเจนที่จะเก็บเงินก้อนนี้ที่มี 3 ล้านบาทเศษเอาไว้เป็นทุนการศึกษาให้น้องแมนยู สามารถเรียนต่อไปถึงปริญญาโท และปริญญาเอกได้เลย
คณะกรรมการสถานศึกษาท่านเดิม บอกอีกว่า เงินบริจาคที่ประชาชนหลั่งไหลช่วยน้องแมนยู ที่รับมอบกันไปแล้วเมื่อวันก่อน มีประมาณ 1 ล้านบาทเศษ ที่อยู่ในบัญชีของพ่อน้องแมนยู หากเป็นไปตามที่ตกลงกันคือเบิกเป็นค่าใช้จ่ายในครอบครัวน้องแมนยูเดือนละ 10,000 บาท สามารถใช้จ่ายได้ถึง 9 ปีเลยทีเดียว
แต่หากญาติต้องการนำเงินในบัญชีกรุงไทยที่ทางโรงเรียนเปิดไว้ให้น้องแมนยู นั้น ให้ไม่ได้แน่นอน
เพราะคณะกรรมการสถานศึกษามีจุดประสงค์ชัดเจนไว้เป็นทุนการศึกษาให้น้องแมนยู และเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของผู้ใจบุญที่โอนเงินมาช่วยน้อง จึงแจ้งให้ญาติทราบโดยทั่วกัน