ฉะเชิงเทรา - เจออีก! วงแชร์ดอกเบี้ยโหดลูกแชร์จ่ายดอกเบี้ยไม่ไหวถูกทำร้ายประจานคลิปในโลกออนไลน์ พบผู้ตกเป็นเหยื่อใน จ.ฉะเชิงเทราเพียบ ตร.เมืองแปดริ้ว เร่งล่าตัว "เสี่ยแบงก์คอมเพล็กซ์" เจ้าของวงแชร์ล่าสุด พบปิดเฟซบุ๊กหนี
จากกรณีที่มีการเผยแพร่คลิปภาพการทวงหนี้โหดจากวงแชร์ "เสี่ยแบงก์ คอมเพล็กซ์" ลงในโลกออนไลน์ โดยเป็นการบุกทำร้ายสมาชิกวงแชร์สาวที่ถึงที่พักในเขต อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา จนเกิดกระแสการตามหา "เสี่ยแบงก์" ทั้งในโลกออนไลน์และการติดตามตัวของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งล่าสุด "เสี่ยแบงก์ คอมเพล็กซ์" วงแชร์ดอกเบี้ยโหดร้อยละ 20 ต่อ 5 วัน ได้ปิดเฟซบุ๊กหนีไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วนั้น
วานนี้ ( 30 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก นายตุ้ม (นามสมมติ) อายุ 19 ปี อดีตลูกจ้างซึ่งทำหน้าที่ปั่นราคาดอกเบี้ยวงแชร์ กล่าวว่า นายแบงก์ ซึ่งเป็นเท้าแชร์มีอายุเพียง 27 ปี และได้ชักชวนตนเองให้เข้ามาร่วมเล่นแชร์ดอกเบี้ยโหดตั้งแต่เดือน มี.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งในครั้งแรกตนเองรู้สึกสนุกและได้เงินง่ายจากอัตราดอกเบี้ยที่ได้รับจากวงแชร์ซึ่งสูงกว่าที่อื่น
แต่สุดท้ายกลับกลายเป็นไม่สามารถจ่ายดอกได้ไหว จนต้องผันตัวเองมาเป็นผู้ที่ทำหน้าที่ปั่นดอกเบี้ยเพื่อให้ลูกแชร์ลงกระแส และมีการหาลูกแชร์รายใหม่เข้ามาเพิ่ม
โดยจะได้ค่าจ้างครั้งละ 300-500 บาท และหลังลูกแชร์ภายในวงได้ทำการเปียแชร์แล้ว “นายแบงก์” ก็จะโอนเงินเข้าบัญชีให้ตามที่ลูกแชร์เปียสู้ราคา และหากลูกแชร์ภายในวงสู้ดอกเบี้ยในราคา ลูกค้าที่หลงเข้ามาเปียสู้ราคาลดลงมาจากยอดเพียงเล็กน้อย พวกตนก็จะมีหน้าที่เข้าไปปั่นราคาดอกเบี้ยให้สูงขึ้น ซึ่งผู้ที่เปียแชร์ได้จะต้องจ่ายดอกเบี้ยวงแชร์ในอัตราร้อยละ 20 บาทต่อ 5 วัน
และหากหน้าม้ารับจ้างเปียแข่งได้หลังจากลูกแชร์ไม่สู้ตามราคา นายแบงก์ ก็จะทำทีโอนเงินเข้าบัญชีหน้าม้าก่อนนำสลิปการโอนเงินโพสต์แชร์ในกลุ่มเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ จากนั้นหน้าม้าจะต้องโอนเงินคืนให้ นายแบงก์ ภายใน 30 นาที เพื่อทำการเปิดวงแชร์ใหม่ในทันที
ขณะที่ น.ส.นี (นามสมมติ) อายุ 19 ปี ซึ่งเป็น 1 ในทีมหน้าม้าหลอกลูกแชร์ กล่าวว่าตนเองเคยถูกใช้ให้เป็นผู้ติดตามทวงหนี้ และทำหน้าที่ด่าทอลูกแชร์ที่ไม่จ่ายดอกเบี้ยด้วยถ้อยคำหยาบคายเพื่อทำให้ลูกแชร์หวาดกลัวและพยายามหาเงินมาจ่ายทั้งต้นและดอกเบี้ย แต่ยังไม่เคยก่อเหตุทำร้ายลูกแชร์รายใด
โดยจะได้ค่าจ้างจาก นายแบงก์ หรือเสี่ยแบงก์ ครั้งละ 500 บาท และเมื่อตนเองเห็นว่า นายแบงก์ มีลูกหนี้วงแชร์มากขึ้นเรื่อยๆ และเริ่มมียอดเงินในวงแชร์ที่ค่อนข้างสูงจึงเริ่มถอนตัวออกมาเพราะรู้ว่ากระทำผิดกฎหมาย และไม่ต้องการมีส่วนร่วมกับการกระทำผิดด้วย
อย่างไรก็ดี ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ในวันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจเมืองแปดริ้ว ยังคงเร่งติดตามตัว "เสี่ยแบงก์ คอมเพล็กซ์" มาดำเนินคดีตามกฎหมาย หลังพบว่ามีชาวบ้านในพื้นที่ถูกหลอกให้เข้าร่วมวงแชร์เป็นจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ซ้ำยังมีผู้เสียหายทยอยเข้าแจ้งความอย่างต่อเนื่อง
