นครสวรรค์ - ผู้สูงอายุ ผู้พิการพื้นที่ต่างอำเภอ ไกลปืนเที่ยง ไม่รู้รัฐเลื่อนจ่ายเบี้ยยังชีพ ให้ลูกหลานพากดเงินแล้วไม่ได้ทำผิดหวังกันระนาว บางรายต้องขอหยิบยืมคนรู้จักต่อชีวิต บอก 600 หรือ 800 ก็อยู่ได้หลายสัปดาห์
กรณีกรมบัญชีกลางประกาศเลื่อนจ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ และเบี้ยคนพิการสำหรับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยระบุว่า ไม่สามารถโอนเงินเข้าบัญชีผู้มีสิทธิรับเงินและโอนเข้าบัญชีขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้ภายในกำหนดเวลาวันที่ 10 กันยายน 2563 เนื่องจากติดขัดขั้นตอนเรื่องการจัดสรรงบประมาณไปกลับ ระหว่างกรมบัญชีกลาง และกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น จึงมีความจำเป็นต้องเลื่อนการจ่ายเงินออกไปนั้น
เมื่อไปสังเกตการณ์บริเวณหน้าธนาคารกรุงไทย สาขาห้างแฟรี่แลนด์ อ.เมืองนครสวรรค์ สุดสัปดาห์นี้ พบว่า ยังมีผู้สูงอายุหลายรายเดินทางมาตรวจสอบบัญชีของตนเอง โดยยังไม่ทราบว่ามีการประกาศเลื่อนจ่ายเงิน จึงทำให้ผู้สูงอายุหลายคนต่างผิดหวังไปตามๆ กัน
เนื่องจากหลายคนเดินทางมาจากต่างตำบลที่อยู่ไกลห่างตัวเมืองนครสวรรค์กว่า 40 กิโลเมตร และมีอีกบางส่วนเดินทางมาจากต่างอำเภอ โดยหวังว่าจะนำเงินเก็บมาผสมรวมกันกับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ เอาไปซื้อของกินของใช้กลับไปที่บ้าน แต่เมื่อมาตรวจสอบบัญชีแล้วพบว่า เงินยังไม่เข้า จึงทำให้รู้สึกผิดหวัง
และนอกจากนี้ ยังพบด้วยว่า นอกจะมีผู้สูงอายุหลายรายไม่ได้เบี้ยยังชีพแล้ว ยังมีผู้พิการอีกจำนวนหนึ่งต่างก็ผิดหวังที่เบี้ยยังชีพผู้พิการ จำนวน 800 บาท ยังไม่ออกด้วยเช่นกัน
จากการสอบถามบรรดาผู้สูงอายุ ต่างบอกว่ารู้สึกผิดหวัง แม้จะเป็นเงินจำนวนเพียงแค่ 600 บาท แต่สามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้นานหลายสัปดาห์เลยทีเดียว โดยนายสมศักดิ์ กกกลิ่น อายุ 65 ปี บอกว่า มีอาชีพทั่วไป และได้เงินจากเบี้ยผู้สูงอายุทุกวันที่ 10 ของเดือน จำนวน 600 บาท ตนสามารถนำไปซื้อของมาทำอาหาร สามารถอยู่ได้เป็นเดือน อีกทั้งยังมีเงินเหลือแบ่งมาผสมจากการทำงานรับจ้างเอาไปจ่ายค่าเช่าบ้าน ค่าน้ำค่าไฟได้อีกด้วย
“ที่มีการลือว่ารัฐถังแตกนั้น ตนเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง เพราะเห็นว่ามีการประกาศเลื่อนไปจ่ายวันที่ 22 กันยายน แต่หากยังไม่มีเงินเข้าอีก ตนคงต้องใช้ชีวิตลำบากกว่านี้แน่นอน”
ขณะที่ นายสมหวัง จันทร์รัตน์ ผู้สูงอายุชาวนครสวรรค์ วัย 65 ปี ระบุว่า เงินที่ได้จากเบี้ยยังชีผู้สูงอายุ เป็นเงินที่เอาไว้ใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ตนก็อายุมากแล้ว ทำงานหนักก็ไม่ได้ ทำได้เพียงงานรับจ้างเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้น ซึ่งที่ผ่านมา ถ้าไม่มีเงินเบี้ยผู้สูงอายุมาช่วย ตนก็อยู่อย่างลำบาก
อย่างเช่นวันนี้มาเช็กเงินในบัญชีด้วยความหวัง แล้วพบว่ายังไม่มีเงินเข้า เพราะมีการประกาศเลื่อนจ่าย จึงทำให้ตนต้องไปหาหยิบยืมเพื่อน หรือคนรู้จักมาใช้ก่อน เพราะแทบไม่มีเงินติดตัวเหลือใช้แล้ว
เช่นเดียวกันกับนางสมจิต เอี่ยมสุข อายุ 68 ปี ระบุว่า หวังว่าจะมีเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเข้ามาในบัญชี จึงได้ให้ลูกสาวพามากดเงินให้ แต่ปรากฏว่ายังไม่มีเงินเข้า จึงรู้สึกผิดหวัง เพราะจะนำเงินมาใช้จ่ายแต่ก็ไม่ได้ใช้ และตอนนี้ก็ไม่มีเงินติดตัว เพราะไม่มีอาชีพอะไร คงต้องอาศัยให้ลูกเลี้ยงดูไปก่อน