กาญจนบุรี - ผู้ว่าฯ กาญจนบุรี รับหนังสือแสดงเจตนารมณ์จากภาคประชาชนเรียกร้องให้ช่วยผลักดันโครงการพัฒนาพื้นที่โรงงานกระดาษไทยฯ ด้านโซเชียลโพสต์โจมตี 20 ส.อบจ. ที่ไม่ผ่านงบประมาณ จนทางมหาวิทยาลัยราชภัฏกาญจน์ต้องเป็นแกนหลักเชิญทุกฝ่ายเจรจาเพื่อหยุดปัญหา
วันนี้ (3 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริเวณภายในโรงงานกระดาษไทยฯ อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี ประชาชนเครือข่ายพัฒนาพื้นที่โรงงานกระดาษและเมืองเก่ากาญจนบุรี พร้อมใจกันสวมเสื้อสีเขียวที่มีสัญลักษณ์ “กำแพงเมืองเก่าโรงงานกระดาษสมบัติชาติเราขอคืน” ซึ่งได้มีการสวมแสดงพลังรณรงค์เพื่อทวงคืนพื้นที่โรงงานกระดาษให้กลับมาเป็นสมบัติของชาวกาญจนบุรี และสมบัติของชาติไทย เมื่อครั้งที่ยื่นหนังสือเรียกร้องขอให้จังหวัดกาญจนบุรีผลักดันให้โรงงานกระดาษให้กลับมาเป็นสถานที่สาธารณะให้ชาวจังหวัดกาญจนบุรีได้ใช้ประโยชน์และเป็นสถานที่ประวัติศาสตร์ของจังหวัดกาญจนบุรี
โดย นายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ได้รับหนังสือแถลงการณ์แสดงเจตนารมณ์ให้ช่วยผลักดันโครงการพัฒนาพื้นที่โรงงานกระดาษไทยฯ จาก นายศิวโรฒ จิตนิยม ตัวแทนกลุ่มประชาชนเครือข่ายพัฒนาพื้นที่โรงงานกระดาษและเมืองเก่ากาญจนบุรี และได้มอบหนังสือให้ นายอัศดร รากบัว สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรี ตัวแทนองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรี ด้วย สำหรับเจตนารมณ์ในหนังสือที่ยื่น มี 5 ข้อ ได้แก่
1.โครงการพัฒนาพื้นที่โรงงานกระดาษ ควรเป็นประเด็นสาธารณะของชาวกาญจนบุรีทุกคน เนื่องจากเป็นพื้นที่สำคัญทางประวัติศาสตร์และเป็นรากฐานสำคัญของศูนย์กลางเมืองเก่ากาญจนบุรีในปัจจุบัน
2.กระบวนการพัฒนาพื้นที่โรงงานกระดาษควรให้ความสำคัญต่อการมีส่วนร่วมของประชาชนของทุกภาคส่วน และส่งเสริมให้ประชาชนรวมถึงผู้เชี่ยวชาญร่วมออกแบบพื้นที่เพื่อสร้างความรู้สึกความเป็นเจ้าของร่วมกัน
3.พื้นที่โรงงานกระดาษไทยควรได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานภาครัฐ ตั้งแต่ระดับประเทศ ระดับจังหวัด หรือระดับท้องถิ่น เพื่อรับประกันความต่อเนื่องความสำเร็จและความยั่งยืนของโครงการ ทั้งนี้ ควรมีทิศทางการพัฒนาที่ชัดเจน หรือมีการศึกษาพื้นที่ทุกมิติอย่างเป็นระบบ รวมทั้งมีการจัดทำแผนแม่บทเพื่อพัฒนาโครงการทั้งในระยะสั้นและระยะยาว
4.ควรให้ความสำคัญต่อประเด็นทางสังคม สิ่งแวดล้อม วัฒนธรรม ทั้งที่เชื่อมโยงโดยตรงหรือโดยทางอ้อมกับพื้นที่เพื่อป้องกันผลกระทบด้านลบที่อาจเกิดขึ้นได้ และควรมีมาตรการเยียวยาหรือบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ที่อาจได้รับผลกระทบ นอกจากนี้ ควรมีการศึกษาชุมชนรอบพื้นที่โรงงานกระดาษเพื่อนำเสนอคุณค่าของชุมชนด้วย
5.โครงการพัฒนาโรงงานกระดาษไม่ควรถูกทำให้เป็นประเด็นความขัดแย้งทางการเมืองหรือถูกใช้เป็นเครื่องมือเพื่อเป้าหมายหรือผลประโยชน์ทางการเมืองไม่ว่าจะระดับใดก็ตาม
ด้าน นายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี กล่าวว่า จากที่ประชาชนชาวจังหวัดกาญจนบุรีได้แสดงความตั้งใจที่จะขอให้โรงงานกระดาษไทยฯ เป็นสถานที่สาธารณะของชาวจังหวัดกาญจนบุรี ให้ได้ใช้ประโยชน์ ทางจังหวัดกาญจนบุรีได้เสนอข้อเรียกร้องดังกล่าวไปยังส่วนกลางจนได้รับมอบพื้นที่ให้จังหวัดกาญจนบุรี โดยได้ร่วมกับทุกภาคส่วนพัฒนาพื้นที่ภายในบริเวณโรงงานกระดาษและบริเวณโดยรอบให้มีภูมิทัศน์ที่สวยงาม
ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการจ่ายค่าชดเชยให้แก่ภาคเอกชนในส่วนที่เป็นผู้รับสิทธิในการประกอบกิจการ โดยมอบให้องค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรีขอใช้สถานที่และตั้งงบนำไปจ่ายค่าชดเชยให้แก่ผู้ประกอบการ หากดำเนินการเรียบร้อยจะสามารถดำเนินการพัฒนาโรงงานกระดาษต่อไปได้ ซึ่งในเรื่องดังกล่าวจะมีการประชุมหารือทำความเข้าใจกับทุกฝ่าย เชื่อว่าจากนั้นจะสามารถดำเนินการต่อไปได้อย่างแน่นอน ทั้งนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ได้ย้ำว่า ยังยืนยันคำเดิมที่ได้กล่าวไว้เมื่อ 2 ปีที่แล้ว “หากโรงงานกระดาษไม่กลับมาเป็นของประชาชนชาวจังหวัดกาญจนบุรี จะไม่มีผู้ว่าชื่อ จีระเกียรติ์ ต่อไป”
ส่วนที่อาคาร 9 ชั้น ห้องประชุมโกมินทร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏกาญจนบุรี ตำบลหนองบัว อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี ได้เปิดห้องเพื่อเชิญทุกฝ่ายนั่งประชุมหาทางออกในเรื่องนี้ เพื่อให้สังคมที่ติดใจสงสัยสาเหตุที่ทำไมทางฝ่ายสมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรี ทั้ง 20 คน ไม่ยอมผ่านร่างงบประมาณวงเงิน 16 ล้านบาท ในการซื้อโรงงานกระดาษ รวมถึงอุปกรณ์เครื่องจักรที่อยู่ภายในโรงงานแห่งนี้ จนโลกโซเชียงได้ลงถล่ม 20 ส.อบจ.กาญจน์ อย่างหนักกรณีที่ไม่ยกมือผ่านร่างงบประมาณซื้อโรงงานกระดาษวงเงิน 16 ล้านบาท ทางมหาวิทยาลัยราชภัฏกาญจน์ จึงเข้าเป็นตัวกลางโดยเชิญทุกฝ่ายประชุมหารือหาทางออกไม่ให้บานปลายไปกว่านี้
โดยในห้องประชุมมีกลุ่มเครือข่ายภาคประชาชนกาญจนบุรี คงขาดเพียงทางฝ่ายของผู้บริหารองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรี ไม่ไปเข้าร่วมถกปัญหาในครั้งนี้ด้วย โดยในห้องประชุมทางฝ่าย ส.อบจ.กล่าวว่า การที่ไม่ได้ยกมือผ่านร่างงบประมาณจำนวน 16 ล้านบาท ให้โดย 20 สมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรี อ้างว่าเป็นเพราะกลุ่มตนเองยังไม่เห็นเอกสาร หากดำเนินการใดๆ ลงไปอาจทำให้เกิดความเสียหายภายหลังได้ แต่เรื่องโรงงานกระดาษนั้นตนเองทั้งหมดเป็นชาวจังหวัดกาญจนบุรี แม้จะอยู่ต่างอำเภอก็ตาม แต่พวกเราก็อยากได้โรงงานกระดาษแห่งนี้ แต่การกระทำมันไม่เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย จึงไม่สามารถยกมือผ่านร่างงบประมาณนี้ได้
นายวิจารณ์ กุลชนะรัตน์ อดีตปลัด อบจ.กาญจนบุรี ในฐานะที่ปรึกษากลุ่มสมาชิกทั้ง 20 คน ได้กล่าวเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องสาเหตุที่ไม่รับในฐานะที่เคยทำงานอยู่ใน อบจ.ในตำแหน่งปลัด อบจ.ว่า การรับร่างข้อบัญญัติงบประมาณในปี 64 ในวันนั้นอาจจะทำให้ ส.อบจ.ทั้ง 20 คน ที่ไม่ให้การสนับสนุนงบประมาณดังกล่าวผ่านอาจจะติดคุกตามมาภายหลังได้ ร่วมถึงการเสนองบดังกล่าวผิดระเบียบไม่เป็นไปตามระเบียบของ อปท.และกระทรวงมหาดไทย
ขอยืนยันว่าพวกเราทุกคนยังขอสนับสนุนโรงงานตามแผนพัฒนาของทางจังหวัดกาญจนบุรี ที่ต้องการให้พื้นที่โรงงานกระดาษเป็นปอดแห่งใหม่ แหล่งศึกษาเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์ และแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่อย่างแน่นอน ที่ไม่รับร่างดังกล่าวเพราะฝ่ายบริหารทำผิดระเบียบข้อบังคับ พวกตนจึงเห็นว่าผิด จึงยกมือไม่รับร่างข้อบัญญัติงบประมาณปี 2564 งบพัฒนาโรงงานกระดาษดังกล่าว เพื่อต้องการให้ฝ่ายบริหารนำไปทำการปรับปรุงใหม่แล้วค่อยยื่นร่างญัตติดังกล่าวอีกครั้งเพื่อความถูกต้องตามระเบียบข้อบังคับของ อปท. และกระทรวงมหาดไทย