เจอแจ้งความแล้ว! ทั้งนายก อบต.-ผู้รับเหมาเปิดหนองเล่มขายตั๋วล่าปลาบึกยักษ์จนสะเทือนใจทั้งเมือง

ตาก - นอภ.บ้านตากสรุปผลสอบเปิดหนองน้ำหน้าวัดพระบรมธาตุฯ ขายตั๋วล่าปลาบึกยักษ์จนสะเทือนใจกันทั่ว พร้อมขึ้นโรงพักร้องทุกข์ทั้งนายก อบต.เกาะตะเภา-ผู้รับเหมา ฐานทำลายทรัพย์สาธารณประโยชน์-ผิด พ.ร.บ.คอมพ์ ชี้ผลประชาคมแค่อ้าง


นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก ได้มอบหมายให้นายอรรถวุฒิ พึ่งเนียม นายอำเภอบ้านตาก ชี้แจงถึงผลการสอบข้อเท็จจริงกรณีทอดแหจับปลาบริเวณหนองเล่ม หมู่ที่ 4 ต.เกาะตะเภา อ.บ้านตาก จ.ตาก ว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 22 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งได้มีผู้คนมาร่วมกิจกรรมทอดแหกว่า 600 คน มีการเก็บเงินค่าบัตรใบละ 600 บาท

และมีภาพปลาบึกขนาดใหญ่ที่ถูกจับขึ้นมาวางกองบนถนน สร้างความสะเทือนใจให้แก่ประชาชนในวงกว้างทั่วประเทศ และเกิดการวิพากษ์วิจารณ์การกระทำดังกล่าวของผู้รับประมูลจัดงาน ผู้จัดงาน รวมถึงผู้อนุญาตให้มีการประมูลจับปลาดังกล่าว อันน่าจะสร้างความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของอำเภอบ้านตากและก่อให้เกิดความเสื่อมเสียศรัทธาของประชาชนที่มีต่อระบบราชการและหน่วยงานราชการต่างๆ

หลังเกิดเหตุ ผู้ว่าราชการจังหวัดตากได้สั่งการให้อำเภอบ้านตากตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงให้แล้วเสร็จภายใน 7 วัน ซึ่งทางอำเภอบ้านตากได้เรียกผู้เกี่ยวข้องมาสอบข้อเท็จจริงกว่า 40 คน สรุปได้ว่า พื้นที่หนองเล่มตั้งอยู่ในพื้นที่สาธารณสมบัติของแผ่นดินประเภทพลเมืองใช้ประโยชน์ร่วมกัน มีเนื้อที่ประมาณ 50 ไร่ และมีการออกเป็นหนังสือสำคัญที่หลวงเมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2514 ตั้งอยู่หมู่ที่ 4 ต.เกาะตะเภา อ.บ้านตาก ตรงข้ามวัดพระบรมธาตุบ้านตาก ไม่ได้อยู่ในเขตวัดและเจ้าอาวาสฯ ยืนยันไม่ได้อยู่ในเขตอภัยทาน ผู้สูงอายุในหมู่บ้านและผู้ปกครองท้องที่ยืนยันว่าปลาบึกที่ถูกจับในหนองเล่ม เป็นปลาที่อดีตผู้ใหญ่บ้านปล่อยไว้เมื่อ 20 ปีที่แล้ว


สำหรับการทอดแหจับปลาวันดังกล่าว นายทวี เคลือบวัง นายก อบต.เกาะตะเภา และนายกบ คลองลาน ผู้รับเหมาจัดงานทอดแห เป็นผู้ดำเนินการ มีข้อตกลงจ่ายเงินการจัดงานครั้งนี้ 200,000 บาท โดยนายทวี เคลือบวัง ได้นำเงินไปฝากไว้ที่สหกรณ์การเกษตรบ้านตากจำกัด ชื่อบัญชี พัฒนาหนองเล่ม ตำบลเกาะตะเภา ซึ่งมีผู้เปิดบัญชีร่วมกัน 3 คน หนึ่งในนั้นคือ นายทวี เคลือบวัง นายก อบต.เกาะตะเภา เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2563

นอกจากนี้ได้ตรวจสอบการที่กล่าวอ้างว่า อบต.เกาะตะเภาจะมีโครงการขุดลอกปรับปรุงหนองเล่มนั้น ปรากฏว่าไม่มีในแผนพัฒนาท้องถิ่นปี 2561-2565 ของ อบต.เกาะตะเภา และไม่เคยนำเรื่องการเปิดทอดแหเข้าพิจารณาในสภา อบต.เกาะตะเภา แต่อย่างใด

นายอำเภอบ้านตากกล่าวต่อไปว่า กรณีที่นายก อบต.เกาะตะเภาอ้างว่าได้มีการประชาคมคนในบ้านหมู่ 4 แล้ว คณะกรรมการฯ ได้เรียกสอบผู้ใหญ่บ้าน คณะกรรมการหมู่บ้าน และประชาชนหมู่ที่ 4 พบว่าวันที่ 9 สิงหาคม 2563 เป็นการประชุมประจำเดือนตามปกติ ไม่ถือว่าเป็นการประชาคมหมู่บ้าน ตามระเบียบของกระทรวงมหาดไทย ไม่มีการรับฟังความเห็นจากประชาชนอย่างรอบด้าน


ส่วนการจัดกิจกรรมนี้มีการทำผิดตามประกาศของกรมประมง เรื่อง กำหนดพื้นที่และระยะเวลาฤดูสัตว์น้ำจืด หรือวางไข่ เลี้ยง ตัวอ่อน และกำหนดเครื่องมือการทำประมงและเงื่อนไขในการทำประมงหรือไม่ จากการสอบข้อเท็จจริงพบว่าเครื่องมือที่ใช้เป็นไปตามข้อยกเว้นของประกาศ อีกทั้งพื้นที่หนองน้ำดังกล่าวยังไม่ได้ประกาศเป็นพื้นที่รักษาพันธุ์สัตว์น้ำ แต่ถ้าสำนักงานประมงจังหวัดตากพบการกระทำผิดเพิ่มเติมภายหลัง ก็จะดำเนินการบังคับใช้กฎหมายโดยเคร่งครัดต่อไป

อย่างไรก็ตาม การกระทำของนายทวี เคลือบวัง นายก อบต.เกาะตะเภา น่าเชื่อว่ามีการกระทำผิดฐานปฏิบัติการไม่ชอบด้วยอำนาจหน้าที่ และประพฤติตนฝ่าฝืนต่อความสงบเรียบร้อยและผิดศีลธรรมอันดีต่อประชาชน รวมถึงกระทบความเชื่อมั่นศรัทธาของประชาชนเป็นการเสียหายร้ายแรงแก่ อบต.และทางราชการหลายหน่วย มีพฤติการณ์การบกพร่องในอำนาจหน้าที่ในการคุ้มครอง ดูแล และบำรุงรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หน้าที่ในการดูแลคุ้มครองที่สาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับประชาชน รวมถึงนายก อบต.ไม่มีอำนาจใช้และยินยอมให้บุคคลอื่นใช้ที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับประชาชนใช้ประโยชน์ร่วมกัน

จากผลการสอบข้อเท็จจริงที่ปรากฎ อำเภอบ้านตากได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนขึ้นมาอีกหนึ่งชุดเพื่อสอบในกรณีดังกล่าวและรายงานภายใน 60 วัน แต่เบื้องต้นนั้นได้มีการร้องทุกข์ต่อ สภ.บ้านตาก 2 เรื่อง คือ 1. พฤติการณ์ที่นายทวี เคลือบวัง นายก อบต.เกาะตะเภา และนายกบ คลองลาน ฐานเสียทรัพย์ ทำลาย ทำให้เสื่อมค่า หรือทำให้ไร้ประโยชน์ ซึ่งทรัพย์มีใช้ หรือมีไว้เพื่อสาธารณประโยชน์ ซึ่งมีความผิดต่อแผ่นดิน และ 2. พฤติการณ์ที่นายกบ คลองลาน ได้โพสต์ทางสื่อออนไลน์ มีลักษณะอันเป็นข้อความเท็จ มีความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 ซึ่งพนักงานสอบสวนจะได้เรียกผู้ถูกล่าวหา มาให้ปากคำต่อไป

และหากพบว่ามีความผิดเพิ่มเติมจะดำเนินการแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษภายหลัง ซึ่งประชาชนที่ทราบหรือบันทึกภาพเหตุการณ์เมื่อวันที่ 22 สิงหาคมไว้สามารถแจ้งเบาะแสเพิ่มเติมได้ที่ สภ.บ้านตาก หรืออำเภอบ้านตาก เพื่อใช้เป็นหลักฐานต่อไป