บุรีรัมย์ - แชร์ว่อน คลิปชายใส่เสื้อยืดกางเกงขาสั้นถือวิทยุสื่อสารขับกระบะเปิดเพลงดังลั่น ท่าทางคล้ายคนเมา อ้างตัวเป็นตำรวจใช้คำพูดไม่สุภาพขอตรวจบัตร ปชช.กลุ่มวัยรุ่นนั่งเล่นริมถนนข้างสระหนองปรือ อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ ล่าสุดสอบถาม สภ.ละหานทราย พบเป็นตำรวจจริง
วันนี้ (30 ส.ค.) ได้มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพส์ตคลิปวิดีโอ และข้อความลงในเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า "ขอสอบถามหน่อยนะครับ ใช่ตำรวจจริงหรือเปล่าครับคนนี้ คือเขาขับรถเปิดเพลงเสียงดัง ลงมาแล้วมาที่ผม เขาไม่แสดงบัตรไม่แสดงอะไรเลย แล้วมาตรวจผม (ถ้าตำรวจจริงคุณทำแบบนี้ไม่ถูกน่ะครับ) อาการก็เหมือนคนเมา ระวังกันไว้ด้วยนะครับ หน้าสระหนองปรือ" จากนั้นได้มีผู้นำคลิปดังกล่าวไปแชร์ต่อ และมีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันเป็นจำนวนมาก
จากนั้นผู้สื่อข่าวได้ติดต่อไปยังผู้โพส์ตคลิปดังกล่าว คือ นายอนุชา อ้อคำ อายุ 22 ปี อาชีพรับจ้างทั่วไป อยู่ที่ อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ จากการสอบถามนายอนุชา ให้ข้อมูลว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 27 ส.ค.ที่ผ่านมา ช่วงเวลาประมาณตี 1 โดยขณะที่ตนนั่งเล่นอยู่กับเพื่อนวัยรุ่นชายหญิงประมาณ 5-6 คนบริเวณริมถนนหน้าสระหนองปรือ มีรถกระบะคันหนึ่งเปิดเพลงเสียงดังลั่นขับมาจอดใกล้กับจุดที่พวกตนนั่งเล่นกันอยู่ จากนั้นได้มีผู้ชายแต่งกายสวมเสื้อยืดกางเกงขาสั้น ในมือถือวิทยุสื่อสารเดินตรงเข้ามาหาตนเองที่กำลังนั่งเล่นอยู่กับเพื่อน ท่าทางคล้ายคนเมาแล้วมาถามตนด้วยถ้อยคำที่ไม่สุภาพว่า “มึงมีใบขับขี่มั้ย” ก่อนจะขอตรวจบัตรประชาชน เพื่อนๆ ที่นั่งเล่นอยู่ด้วยกันเห็นท่าไม่ดีเพราะไม่รู้ว่าชายคนดังกล่าวเป็นตำรวจจริงหรือไม่ จึงได้หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาถ่ายคลิปไว้เป็นหลักฐาน
จากนั้นตนล้วงบัตรประชาชนในกระเป๋าออกมาให้ชายคนดังกล่าวดู แต่ไม่ให้ชายคนดังกล่าวจับ เพราะดูจากลักษณะท่าทางแล้วไม่น่าไว้ใจ เพราะหากเป็นตำรวจจริงทำไมไม่แต่งเครื่องแบบ หรือแสดงบัตรเจ้าหน้าที่ก่อนจะขอตรวจค้น เพราะตนก็ไม่ได้ทำอะไรผิดแค่นั่งเล่นกันตามประสาวัยรุ่นเท่านั้น แต่ก็ยอมรับว่าตกใจต่อเหตุการณ์ดังกล่าวเพราะก่อนที่ชายคนดังกล่าวจะเดินไปขึ้นรถได้พูดลักษณะขู่ไว้ด้วยว่า “เดี๋ยวมึงกับกูได้ยาว”
พอวันต่อมา นายอนุชา และเพื่อนที่เป็นคนถ่ายคลิปได้เดินทางไปยัง สภ.ละหานทราย เพื่อนำคลิปดังกล่าวไปสอบถามเจ้าหน้าที่ตำรวจที่โรงพัก ว่าชายที่ปรากฏในคลิปเป็นตำรวจจริงหรือไม่ เมื่อเจ้าหน้าที่ได้ดูคลิปบอกว่าชายคนดังกล่าวเป็นตำรวจจริง ซึ่งได้แจ้งให้ผู้บังคับบัญชาทราบแล้ว ซึ่งนายอนุชาบอกว่าเมื่อทราบว่าเป็นตำรวจจริงก็ไม่ได้ติดใจจะเอาเรื่องอะไร แค่อยากให้ตำรวจนายดังกล่าวปรับปรุงการทำหน้าที่ หากจะตรวจค้นควรจะมีการแต่งเครื่องแบบ หรือแสดงบัตรให้ชัดเจนเพราะทุกวันนี้ไม่รู้ว่าใครเป็นใคร